
โธมัส ทูเคิ่ล อดีตกุนซือหลากหลายสโมสรทั่วโลก ไมนซ์ 05 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ของบุนเดสลีกา เยอรมัน ปารีสแซงแชร์แมง ลีกเอิง ฝรั่งเศส เชลซี พรีเมียร์ลีกอังกฤษ จนมารับงานผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนใหม่ พร้อมภารกิจพาทีมล่าความสำเร็จระดับนานาชาติอีกครั้ง มาดูประวัติ ผลงาน และวิสัยทัศน์ของเขาอย่างละเอียด
ใครคือโธมัส ทูเคิ่ล กำเนิดกุนซือสไตล์เพรสซิ่งระดับโลก
โธมัส ทูเคิ่ล เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 1973 ที่เมืองครุมบัค ประเทศเยอรมนี เขาเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรในลีกล่างอย่างเอาก์สบวร์ก แต่โชคร้ายที่อาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่าทำให้เขาต้องยุติอาชีพค้าแข้งในวัยเพียง 25 ปี อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนดังกล่าวกลับกลายเป็นประตูสู่เส้นทางโค้ชอย่างเต็มตัว โดยเขาเริ่มทำงานกับทีมเยาวชนของสตุ๊ตการ์ต ซึ่งเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงด้านพัฒนาเยาวชนของเยอรมนี
ทูเคิ่ลแสดงให้เห็นถึงความเป็น “โค้ชสายคิดลึก” ตั้งแต่ช่วงแรก เขามีความใส่ใจในรายละเอียดแทบทุกรายการ ตั้งแต่ระบบการซ้อม อาหารนักเตะ ไปจนถึงจิตวิทยาในทีม เขาไม่เพียงเน้นการเพรสซิ่งสูง แต่ยังให้ความสำคัญกับโครงสร้างทีมที่มีวินัย สร้างความสมดุลทั้งรุกและรับ จนได้รับการยอมรับในวงการฟุตบอลเยอรมันอย่างรวดเร็ว เส้นทางของเขาจึงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากไมนซ์ 05 สู่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งกลายเป็นเวทีที่เขาใช้พิสูจน์ว่าเขาคือกุนซือสายแท็กติกระดับโลกคนหนึ่ง
จากปารีสถึงเชลซี เส้นทางความสำเร็จระดับสโมสร
หลังจากประสบความสำเร็จในบุนเดสลีกา ทูเคิ่ลย้ายไปคุมทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) ในปี 2018 และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงได้สองสมัย รวมถึงการนำทีมเข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในปี 2020 ซึ่งแพ้ให้กับบาเยิร์น มิวนิค จากนั้นเขาย้ายมาคุมเชลซีในเดือนมกราคม 2021 และเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020-2021 ได้อย่างน่าทึ่ง โดยเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ช่วงเวลานั้น ทูเคิ่ลได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดในโลก ด้วยวิธีการบริหารทีมและการปรับแผนการเล่นตามสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
ผิดหวังกับบาเยิร์น แต่ไม่สิ้นหวังในเส้นทางผู้จัดการทีม
ทูเคิ่ลเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมบาเยิร์น มิวนิค ในปี 2023 แทนที่ยูเลียน นาเกลส์มันน์ เขาพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาล 2022–23 ได้สำเร็จแบบดราม่าจนถึงนัดสุดท้าย แต่ฤดูกาลถัดมา (2023–24) กลับไม่ราบรื่นเท่าที่หวัง โดยทีมฟอร์มตกจนตกไปอยู่ที่ 3 ของตาราง แถมตกรอบบอลถ้วย ทำให้บอร์ดบริหารของบาเยิร์นตัดสินใจประกาศว่า ทูเคิ่ลจะออกจากตำแหน่งหลังจบฤดูกาล 2024–25
ทีมชาติอังกฤษกับบทใหม่ของทูเคิ่ล ทางเลือกที่น่าทึ่งแต่ท้าทาย
ในช่วงต้นปี 2025 เมื่อแกเร็ธ เซาธ์เกตประกาศอำลาตำแหน่งหลังจบศึกยูโร 2024 สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ได้พิจารณาตัวเลือกใหม่อย่างรอบคอบ และสุดท้ายได้แต่งตั้งโธมัส ทูเคิ่ลเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษคนใหม่ในเดือนมีนาคม 2025 การแต่งตั้งครั้งนี้สร้างความฮือฮา เพราะอังกฤษไม่เคยแต่งตั้งกุนซือชาวต่างชาติมาเกือบสองทศวรรษ นับตั้งแต่สเวน โกรัน อีริคส์สัน และฟาบิโอ คาเปลโล
ทูเคิ่ลกลายเป็นความหวังใหม่ของทีม “สิงโตคำราม” ที่แม้จะมีนักเตะพรสวรรค์มากมาย แต่ยังขาดผู้นำที่สามารถต่อยอดศักยภาพสู่ความสำเร็จระดับโลกได้

แผนการและวิสัยทัศน์ของทูเคิ่ลกับทีมชาติอังกฤษ
จากการสัมภาษณ์เปิดตัว ทูเคิ่ลกล่าวว่าเขา “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้คุมทีมชาติอังกฤษ” และพร้อมจะผสมผสานสไตล์เพรสซิ่งที่เขาถนัดกับคุณภาพเชิงเทคนิคของนักเตะอังกฤษรุ่นใหม่ เช่น จู๊ด เบลลิงแฮม, บูกาโย่ ซาก้า, ฟิล โฟเดน และเดแคลน ไรซ์ เขายังเน้นเรื่องการพัฒนาแนวรับให้มีวินัย และการสร้างความยืดหยุ่นในแผนการเล่นระหว่าง 4-3-3 และ 3-4-2-1 ซึ่งเป็นรูปแบบที่เขาใช้กับเชลซีจนคว้าแชมป์ยุโรปมาแล้ว
ความท้าทายรออยู่ จากรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกสู่เวทีจริง
ทูเคิ่ลเข้ามาคุมทีมชาติอังกฤษในช่วงเริ่มต้นของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของเขา อังกฤษอยู่ในกลุ่มที่มีคู่แข่งอย่างโปแลนด์, เซอร์เบีย และอิสราเอล ซึ่งแม้ไม่ใช่งานยากระดับยูโร แต่ก็ไม่ควรประมาท นอกจากนั้น ทูเคิ่ลยังต้องปรับระบบการทำงานให้เข้ากับแนวทางของ FA และเวลาเตรียมทีมที่จำกัดในระดับทีมชาติ จุดนี้จะวัดความสามารถในการบริหารและจูงใจนักเตะมากกว่าแผนการเล่นเพียงอย่างเดียว
เสียงตอบรับจากนักเตะและแฟนบอลอังกฤษ
หลังจากการแต่งตั้ง ทูเคิ่ล นักเตะหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์เชิงบวก โดยเฉพาะจู๊ด เบลลิงแฮมที่เคยร่วมงานกับเขาในเยอรมนี กล่าวว่าทูเคิ่ล “เป็นโค้ชที่มีรายละเอียดเฉียบและสามารถยกระดับเกมได้จริง” ด้านแฟนบอลก็มีทั้งเสียงสนับสนุนและกังวล โดยเฉพาะเรื่องความเป็นเยอรมันที่อาจขาดความเข้าใจในวัฒนธรรมฟุตบอลอังกฤษ แต่หลายฝ่ายมองว่าวิธีคิดใหม่ ๆ ของเขา อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่อังกฤษต้องการมานาน
โอกาสประสบความสำเร็จของทูเคิ่ลกับอังกฤษ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
บรรดานักวิเคราะห์มองว่าทูเคิ่ลมีโอกาสสูงที่จะพาอังกฤษไปได้ไกลในเวทีระดับโลก ด้วยการผสมผสานระหว่างยุทธวิธีระดับสูง และการมีทรัพยากรนักเตะที่พร้อมอยู่แล้ว หากเขาสามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลระดับทีมชาติที่มีจังหวะการทำงานต่างจากสโมสรได้ และนำความเด็ดขาดมาใส่ในเกมสำคัญ อังกฤษอาจกลายเป็นทีมเต็งแชมป์โลก 2026 ได้ไม่ยาก
โธมัส ทูเคิ่ล หมากใหม่ที่เดิมพันสูงของอังกฤษ
การแต่งตั้งโธมัส ทูเคิ่ลให้คุมทีมชาติอังกฤษคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ที่กล้าเปิดรับกุนซือจากต่างแดนอีกครั้งหลังจากห่างหายมานาน ความสามารถของเขาถูกพิสูจน์แล้วในระดับสโมสร และบทบาทใหม่ในทีมชาตินี้คือโอกาสทองของเขาและของอังกฤษเช่นกัน ทุกสายตาตอนนี้จับจ้องไปที่ทูเคิ่ล ว่าเขาจะเปลี่ยนความผิดหวังในอดีต ให้กลายเป็น “ยุคทองของทีมชาติอังกฤษ” ได้หรือไม่