
สำรวจเส้นทางอาชีพของโรดรีโก้ ซิลวา เดอ โกเอส ตั้งแต่เยาวชน ซานโตส เอฟซี สู่ เรอัล มาดริด สร้างผลงานมากมาย คว้าถ้วยแชมป์หลายใบ จนถึงการเป็นปีกขวาที่ดีที่สุดในโลกปี 2024 และเป็นอนาคตที่สดใสของทีมชาติบราซิล
โรดรีโก้ ซิลวา เดอ โกเอส
โรดรีโก้ ซิลวา เดอ โกเอส (Rodrygo Silva de Goes) คือหนึ่งใน ปีกขวาที่ดีที่สุดในโลกปี 2024 ด้วยความสามารถที่โดดเด่นทั้งในเรื่อง ความเร็ว ทักษะการเลี้ยงบอล และการทำประตู เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของ เรอัล มาดริด และ ทีมชาติบราซิล ตั้งแต่การแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลบราซิลกับ ซานโตส เอฟซี (Santos FC) โรดรีโก้ได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์อันล้นเหลือ และถูกจับตามองว่าเป็น ดาวรุ่งแห่งอนาคตของวงการฟุตบอลแซมบ้า การย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2019 ด้วยค่าตัวมหาศาลในวัยเพียง 18 ปี เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงศักยภาพของเขา แม้ในช่วงแรกของอาชีพค้าแข้งที่ยุโรป เขาต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวให้เข้ากับเกมฟุตบอลที่มีความเข้มข้นมากขึ้น แต่ด้วย ความขยันและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง ทำให้โรดรีโก้ค่อย ๆ กลายเป็นผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้ และในปี 2024 เขาก็กลายเป็น นักเตะแกนหลักของเรอัล มาดริด อย่างเต็มตัว
โรดรีโก้เป็นนักเตะที่มี ความหลากหลายในการเล่น นอกจากตำแหน่งปีกขวาแล้ว เขายังสามารถเล่นเป็น กองหน้าตัวเป้า หรือแม้แต่ปีกซ้าย ได้อย่างยอดเยี่ยม เขามีความสามารถในการ ลากเลี้ยงทะลุแนวรับคู่แข่ง และยังเป็นนักเตะที่สามารถทำประตูสำคัญในเกมใหญ่ ๆ ซึ่งทำให้เขากลายเป็น อาวุธสำคัญของเรอัล มาดริด ในการไล่ล่าความสำเร็จ
ปัจจุบัน โรดรีโก้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่มีอนาคตสดใส และเป็นตัวแทนของฟุตบอลบราซิลยุคใหม่ ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ และเอ็นดริค เขากำลังเป็นหนึ่งในความหวังสำคัญของทีมชาติบราซิลในการลุ้นแชมป์ ฟุตบอลโลก 2026 จากเด็กหนุ่มที่เติบโตมาจากอะคาเดมีของซานโตส สู่การเป็น ปีกขวาที่ดีที่สุดในโลกปี 2024 โรดรีโก้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พรสวรรค์เพียงอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องอาศัยความพยายามและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง
ประวัติสมัยเป็นนักเตะเยาวชน
โรดรีโก้ ซิลวา เดอ โกเอส เกิดเมื่อวันที่ 9 มกราคม ค.ศ. 2001 ที่เมือง โอซาสโก รัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล เขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ หลงใหลในฟุตบอล โดยเฉพาะพ่อของเขา เอริค โกเอส ซึ่งเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพในลีกล่างของบราซิล ความหลงใหลในกีฬาชนิดนี้ถูกปลูกฝังให้กับโรดรีโก้ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุเพียง 10 ปี โรดรีโก้ได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ ซานโตส เอฟซี (Santos FC) สโมสรที่มีชื่อเสียงในด้าน การพัฒนาแข้งเยาวชนระดับโลก และเคยเป็นสโมสรต้นสังกัดของตำนานอย่าง เปเล่, โรบินโญ่ และเนย์มาร์ ความสามารถในการเลี้ยงบอล ความเร็ว และไหวพริบที่เกินวัยของเขาทำให้เขาโดดเด่นกว่าผู้เล่นรุ่นเดียวกัน โรดรีโก้ได้รับการจับตามองจากโค้ชตั้งแต่อายุยังน้อย และในปี 2017 ขณะอายุ 16 ปี เขาได้รับโอกาสเลื่อนขึ้นไปเล่นกับ ทีมชุดใหญ่ของซานโตส กลายเป็น หนึ่งในนักเตะอายุน้อยที่สุดที่เคยลงสนามในลีกสูงสุดของบราซิล การเปิดตัวในลีกอาชีพของเขาเต็มไปด้วยความน่าประทับใจ ทำให้แมวมองจากยุโรปเริ่มให้ความสนใจในตัวเขา และกลายเป็น ดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในวงการฟุตบอลบราซิล
อาชีพนักเตะระดับสโมสร
โรดรีโก้เปิดตัวใน ทีมชุดใหญ่ของซานโตส เมื่อปี 2017 ขณะอายุเพียง 16 ปี ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ อายุน้อยที่สุด ที่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของสโมสร ความสามารถของเขาเริ่มฉายแววด้วย ความเร็ว ทักษะการเลี้ยงบอลที่เฉียบคม และการจบสกอร์ที่เฉียบขาด ซึ่งทำให้เขากลายเป็น ดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดในบราซิล
ในฤดูกาล 2017-18 โรดรีโก้กลายเป็น ตัวหลักของทีมซานโตส อย่างรวดเร็ว และสามารถทำประตูสำคัญให้กับทีมได้หลายครั้ง นอกจากนี้ เขายังกลายเป็น นักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของซานโตส ที่สามารถทำประตูใน โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส ได้ ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับทวีปอเมริกาใต้ การโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรปเริ่มจับตามอง และในปี 2018 เรอัล มาดริด (Real Madrid) ไม่รอช้า รีบเซ็นสัญญากับโรดรีโก้ด้วยค่าตัวประมาณ 45 ล้านยูโร ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งใน ดาวรุ่งค่าตัวแพงที่สุดของบราซิล ณ เวลานั้น การย้ายไปยังเรอัล มาดริดในวัยเพียง 18 ปี ถือเป็น ก้าวกระโดดที่สำคัญ ในอาชีพของเขา และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการค้าแข้งในยุโรป ที่ทำให้เขากลายเป็น หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลกลูกหนังในปัจจุบัน

สโมสรที่สร้างชื่อและความสำเร็จกับ เรอัลมาดริด
การย้ายไปยัง เรอัล มาดริด ในปี 2018 ถือเป็น ก้าวสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตของโรดรีโก้ จากนักเตะดาวรุ่งในลีกบราซิล สู่การเป็น ผู้เล่นตัวหลักของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่เขาได้ พัฒนาทักษะและประสบการณ์ ในการเล่นฟุตบอลระดับสูงสุด ในช่วงแรกที่เข้ามา โรดรีโก้ต้องใช้เวลาปรับตัวกับระบบฟุตบอลยุโรป แต่ด้วย ความสามารถในการเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก และ ความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีม ภายใต้การคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน และต่อมา คาร์โล อันเชล็อตติ เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญของเรอัล มาดริด โดยเฉพาะในเกมใหญ่ ความสำเร็จกับเรอัล มาดริด
- ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก: 2 สมัย (2021-22, 2023-24)
- ลาลีกา: 2 สมัย (2019-20, 2021-22)
- ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ: 2 สมัย
- ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ: 1 สมัย
หนึ่งในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรดรีโก้คือฤดูกาล 2021-22 ที่เขามีบทบาทสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยเฉพาะในรอบรองชนะเลิศที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาทำ 2 ประตูในช่วงท้ายเกม ส่งผลให้เรอัล มาดริดผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และสุดท้ายก็สามารถคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ ความสำเร็จเหล่านี้ ยืนยันถึงบทบาทสำคัญของโรดรีโก้ในทีมราชันชุดขาว และในปัจจุบันเขากลายเป็น หนึ่งในผู้เล่นแนวรุกที่อันตรายที่สุดในยุโรป
เส้นทางสู่ทีมชาติบราซิล
โรดรีโก้ เริ่มต้นเส้นทางในทีมชาติบราซิลตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยเขาได้รับการเรียกติดทีมชาติ บราซิล U17 และ U20 ซึ่งเขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่น และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูกคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของทีมชาติแซมบ้า ในปี 2019 ขณะอายุเพียง 18 ปี โรดรีโก้ได้รับโอกาสครั้งสำคัญ ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ เป็นครั้งแรก โดยลงเล่นเกมกระชับมิตรกับ อาร์เจนตินา หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นขุมกำลังสำคัญของทีม เขามีส่วนร่วมกับทีมชาติในการแข่งขัน โคปา อเมริกา 2021 และฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งในฟุตบอลโลก เขามีบทบาทสำคัญในเกมรุกของทีมบราซิล แม้ทีมจะจบเส้นทางที่รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ผลงานของโรดรีโก้ถือว่า โดดเด่นและได้รับคำชื่นชมอย่างมาก
ปัจจุบัน โรดรีโก้กลายเป็น ตัวหลักของแนวรุกทีมชาติบราซิล เขาถูกมองว่าเป็นกำลังสำคัญที่จะพาทีมชาติไปสู่ความสำเร็จใน ฟุตบอลโลก 2026 ร่วมกับแข้งรุ่นใหม่อย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ และเอ็นดริค และมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็น นักเตะระดับตำนานของทีมชาติบราซิล ในอนาคต
ผลงานและความสามารถที่ทำให้ทุกคนยอมรับ
โรดรีโก้ โกเอส เป็นที่รู้จักในฐานะ หนึ่งในแนวรุกที่ครบเครื่องที่สุดในยุคปัจจุบัน จุดเด่นของเขาคือ ความเร็วอันจัดจ้าน ซึ่งช่วยให้เขาสามารถทะลุแนวรับของคู่แข่งได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ทักษะการเลี้ยงบอลที่เหนือชั้น และ การจบสกอร์ที่เฉียบขาด ทำให้เขาเป็น ตัวเปลี่ยนเกมของเรอัล มาดริดและทีมชาติบราซิล นอกจากความสามารถในการทำประตูแล้ว โรดรีโก้ยังมี ความหลากหลายในการเล่น เขาสามารถเล่นได้ทั้ง ปีกขวา, ปีกซ้าย และกองหน้าตัวเป้า สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากผู้เล่นแนวรุกทั่วไปคือ วิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์เกม และ การตัดสินใจที่ชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายบอลสุดท้าย, การเคลื่อนที่แบบไร้บอล หรือ การเล่นเกมรับเมื่อทีมต้องการ
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้โรดรีโก้ได้รับการยอมรับคือ ความขยันและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง แม้ในช่วงแรกของการค้าแข้งที่ยุโรป เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคและคำวิจารณ์เกี่ยวกับ ความแข็งแกร่งทางร่างกายและการจบสกอร์ แต่ด้วย ความพยายามและความอดทน ทำให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็น นักเตะที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นทุกฤดูกาลด้วยอายุเพียง 23 ปี โรดรีโก้ยังมีเวลาอีกมากในการก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก และอาจกลายเป็นตำนานของทั้งเรอัล มาดริดและทีมชาติบราซิลในอนาคต
จากดาวรุ่งสู่ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก
ณ ปี 2024 โรดรีโก้ ซิลวา เดอ โกเอส ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่าเขาคือ หนึ่งในปีกขวาที่ดีที่สุดในวงการฟุตบอล ไม่เพียงแต่ สร้างชื่อเสียงกับเรอัล มาดริด แต่ยังกลายเป็น กำลังสำคัญของทีมชาติบราซิล ความสำเร็จที่เขาได้รับ ไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลลัพธ์ของ ความพยายาม การฝึกซ้อมอย่างหนัก และความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดจากเด็กหนุ่มที่เติบโตมาใน อะคาเดมีของซานโตส สู่การเป็น หนึ่งในแนวรุกที่อันตรายที่สุดในยุโรป โรดรีโก้เดินตามรอยของตำนานอย่าง เปเล่, โรบินโญ่ และเนย์มาร์ และกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแนวรุกของ บราซิลยุคใหม่
ด้วยวัยเพียง 23 ปี อนาคตของเขายังสดใส และเขายังคงมีโอกาสไล่ล่าความสำเร็จทั้งในระดับสโมสรและระดับทีมชาติ แฟนบอลทั่วโลกต่างรอคอยว่าเขาจะพาเรอัล มาดริดคว้าแชมป์ยุโรปเพิ่มขึ้น และนำบราซิลกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในเวทีระดับโลกอีกครั้งโรดรีโก้ไม่ได้เป็นเพียงดาวรุ่งอีกต่อไป แต่ เขาคือซูเปอร์สตาร์ที่โลกฟุตบอลต้องจับตามองในอีกหลายปีข้างหน้า