092-902-6146 , 092-902-6156 ezgoalnew@gmail.com

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการฟุตบอลยุโรป ด้วยการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร หลังเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน อย่างขาดลอย 5-0 ในนัดชิงชนะเลิศฤดูกาล 2024/25 ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิก เยอรมนี ท่ามกลางสายตาแฟนบอลทั่วโลก การคว้าแชมป์ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของทีมในยุคของหลุยส์ เอ็นริเก้ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการวางรากฐานอันมั่นคงจากการพัฒนาดาวรุ่งและการสร้างทีมเวิร์กที่แข็งแกร่ง PSG เป็นสโมสรลำดับที่ 24 ที่คว้าแชมป์รายการนี้ และทำสถิติเป็นทีมที่มีอายุเฉลี่ยของนักเตะในรอบชิงชนะเลิศน้อยที่สุดเป็นอันดับสอง ด้วยวัยเฉลี่ยเพียง 24 ปี 3 เดือน ชัยชนะครั้งนี้คือจุดเริ่มต้นของยุคทองแห่งปารีสอย่างแท้จริง

ประวัติศาสตร์บทใหม่ของปารีส แซงต์-แชร์กแมง

วันที่ 31 พฤษภาคม 2025 กลายเป็นวันที่แฟนบอลปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) จะไม่มีวันลืม เมื่อทีมรักของพวกเขาสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งแรก ด้วยการเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน อย่างขาดลอย 5-0 ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีนา เมืองมิวนิก เยอรมนี ท่ามกลางแฟนบอล 18,000 คนที่เดินทางมาเชียร์ถึงสนาม และอีกหลายล้านคนทั่วโลกที่รับชมการถ่ายทอดสดจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งในฝรั่งเศส ยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้

Rouge & Bleu เพิ่มถ้วยรางวัลรายการนี้เข้าไปในคอลเลกชันของสโมสรเป็นถ้วยที่ 55 นับตั้งแต่การก่อตั้งสโมสร และเป็นแชมป์ยุโรปถ้วยใหญ่ครั้งแรกอย่างเป็นทางการหลังจากเคยคว้า คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1996 ความสำเร็จนี้จึงกลายเป็นหมุดหมายทางประวัติศาสตร์สำหรับสโมสร เมืองปารีส และวงการฟุตบอลฝรั่งเศส

ความหมายของชัยชนะครั้งนี้ลึกซึ้งเกินกว่าตัวเลขสกอร์ เพราะมันสะท้อนถึงการวางรากฐานใหม่ของสโมสรภายใต้การบริหารของ Qatar Sports Investments (QSI) ตลอดกว่า 13 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2011 PSG พยายามและล้มลุกคลุกคลานในเวทียุโรปมาโดยตลอด แต่การคว้าแชมป์ในปีนี้คือผลลัพธ์ของความเชื่อมั่น ความอดทน และการพัฒนาทีมในระยะยาว

นับตั้งแต่การเข้ามาของ QSI สโมสรได้คว้าแชมป์ในประเทศเกือบทุกรายการ และความสำเร็จในเวทียุโรปก็เป็นเป้าหมายสูงสุดที่พวกเขารอคอย วันนี้ PSG ไม่เพียงแต่เป็นแชมป์ฝรั่งเศสอีกครั้ง แต่พวกเขาคือจ้าวแห่งยุโรปอย่างสมบูรณ์แบบ ทีมที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็น “ทีมที่ใช้เงินซื้อความสำเร็จ” ได้พิสูจน์แล้วว่าเงินไม่สามารถซื้อถ้วย UCL ได้หากไร้การวางระบบและจิตวิญญาณของทีม

แฟนบอลทั่วปารีสเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในย่านช็องเซลีเซ หน้าหอไอเฟล และทั่วประเทศฝรั่งเศส ความสำเร็จนี้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคทองของฟุตบอลเมืองหลวง และสร้างความหวังให้กับคนรุ่นใหม่ที่เฝ้าฝันเห็นทีมรักคว้าแชมป์รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป

ชัยชนะเหนืออินเตอร์ มิลาน ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 5-0 ยังกลายเป็นหนึ่งในผลการแข่งขันที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์รอบชิงชนะเลิศของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ยิ่งทำให้ค่ำคืนในมิวนิกแห่งนี้ กลายเป็นค่ำคืนที่ถูกจารึกไว้ในตำนานของวงการลูกหนังอย่างไม่อาจลืมเลือน

เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศของ PSG

ลูกทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้ เริ่มต้นแคมเปญยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2024/25 ได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการเอาชนะทีมแกร่งอย่าง เบรสต์ (3-0 และ 7-0) ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะเจอกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งพวกเขาเสมอ 1-1 สองนัด และเอาชนะในการดวลจุดโทษ 4-1

รอบก่อนรองชนะเลิศ PSG เฉือนแอสตัน วิลลา 3-1 และแม้จะแพ้เลกสอง 2-3 แต่ยังเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 5-4 และในรอบรองชนะเลิศก็สามารถจัดการ อาร์เซนอล ได้ด้วยสกอร์ 1-0 และ 2-1 รวมสองนัด 3-1 เส้นทางแชมป์ของ PSG ในปีนี้ถือว่าเจอกับบททดสอบที่แท้จริง และพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความสมดุลของทีม ความลึกของขุมกำลัง และจิตใจของผู้ชนะ

รายละเอียดการแข่งขัน PSG ถล่ม อินเตอร์ มิลาน 5-0

ครึ่งแรก: เริ่มต้นอย่างร้อนแรง

  • นาทีที่ 12: อัชราฟ ฮาคิมี ยิงประตูแรกให้ PSG จากจังหวะทำเกมเร็วทางขวา
  • นาทีที่ 20: ดิเซอเร่ ดูเอ้ ยิงประตูสุดเฉียบจากการประสานงานกับเดมเบเล่ ให้ PSG นำ 2-0

ครึ่งหลัง: ย้ำชัยชนะอย่างเด็ดขาด

  • นาทีที่ 63: ดูเอ้ ยิงประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ จากการจ่ายของวิตินญา
  • นาทีที่ 73: ควิชา ควารัตสเคเลีย กองหน้าจอร์เจีย หลุดเข้าไปยิงผ่านออนานา เป็น 4-0
  • นาทีที่ 87: เซนนี่ มายูลู ดาวรุ่งอีกคนของ PSG ปิดกล่อง 5-0 อย่างสวยงาม

ชัยชนะที่มิวนิกนี้ กลายเป็นชัยชนะขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์รอบชิงชนะเลิศ UCL ร่วมยุคใหม่ และเป็นการตอกย้ำว่าความพยายามกว่า 50 ปีของ PSG ได้ผลิดอกออกผลอย่างสมบูรณ์แบบ

สถิติการแข่งขัน

  • การครองบอล: PSG 59% – อินเตอร์ 41%
  • จำนวนยิงทั้งหมด: PSG 23 ครั้ง – อินเตอร์ 8 ครั้ง
  • ยิงเข้ากรอบ: PSG 8 ครั้ง – อินเตอร์ 2 ครั้ง
  • ใบเหลือง: PSG 2 ใบ – อินเตอร์ 4 ใบ
  • ผู้เล่นที่ยิงประตูใน UCL ฤดูกาลนี้อย่างน้อย 5 ประตู: บาร์โกล่า, ดูเอ้, เดมเบเล่, ฮาคิมี่, นูโน่ เมนเดส, ฟาเบียน รุยซ์, ควารัตสเคเลีย (สร้างสถิติใหม่ของรายการ)

ดิเซอเร่ ดูเอ้ ดาวรุ่งที่เปล่งประกายในเวทียุโรป

ดิเซอเร่ ดูเอ้ วัย 19 ปี กลายเป็นฮีโร่ของ PSG ในค่ำคืนนี้ ด้วยการยิง 2 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่มีส่วนร่วมกับ 3 ประตูในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการสร้างทีมด้วยแนวทางใหม่ของหลุยส์ เอ็นริเก้

ดาวเตะชาวฝรั่งเศสรายนี้ ย้ายมาจากแรนส์ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล และกลายเป็นหัวใจสำคัญของแดนกลางด้วยสไตล์การเล่นที่เฉียบคม ทั้งการจ่ายบอลแบบทะลุช่อง การคุมจังหวะเกม และการทำประตูที่เด็ดขาด ความนิ่งและมั่นใจเกินวัยทำให้เขาโดดเด่นในแมตช์ใหญ่ และไม่สะทกสะท้านต่อแรงกดดันในเกมระดับสูง

ฟอร์มของเขาในฤดูกาลนี้ไม่เพียงเปล่งประกายในนัดชิงฯ แต่ยังตลอดเส้นทางของ PSG ในรายการ UCL โดยสื่อหลายสำนักยกให้เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นทรงอิทธิพลที่สุดของยุโรปยุคใหม่ และอาจเป็นเสาหลักของทีมชาติฝรั่งเศสในอนาคตอันใกล้

หลุยส์ เอ็นริเก้ ผู้นำทีมสู่ความสำเร็จ

กุนซือชาวสเปนคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาล 2024/25 ได้แก่ โทรเฟ เดส์ ช็องปิญอง, ลีกเอิง, คูเป เดอ ฟรองซ์ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นี่คือหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เอ็นริเก้ใช้ระบบที่ยืดหยุ่น บ่มเพาะดาวรุ่ง สร้างทีมเวิร์ก และทำให้ PSG มีทั้งความหลากหลาย ความกระหาย และสปิริตที่แตกต่างจากทีมในอดีต

เขายังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการทีมระดับสูงในสถานการณ์กดดัน โดยเฉพาะการตัดสินใจในแมตช์สำคัญ เช่น การปรับแผนระหว่างเกม การเลือกส่งดาวรุ่งลงสนามในแมตช์ใหญ่ และการรักษาสมดุลของทีมทั้งรุกและรับ หลุยส์ เอ็นริเก้ไม่ได้พาทีมชนะเพียงแค่ถ้วยรางวัล แต่เขายังคืนความหวังและแรงบันดาลใจให้กับแฟนบอล PSG ว่าโครงการสร้างทีมอย่างมีแบบแผนสามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริงได้ในเวทียุโรป การคว้าเทรเบิลในฤดูกาลเดียวกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มาจากวิสัยทัศน์อันชัดเจนและการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอของผู้จัดการทีมที่เข้าใจเกมอย่างลึกซึ้ง

การเฉลิมฉลองและเหตุการณ์หลังการแข่งขัน

หลังเกม แฟนบอลเฉลิมฉลองทั่วเมืองปารีส ทั้งที่ช็องเซลีเซ และหน้าหอไอเฟล การเฉลิมฉลองครั้งนี้สะท้อนถึงความหมายทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งต่อแฟนบอลที่รอคอยความสำเร็จระดับทวีปมายาวนาน แฟนบอลหลายรุ่นที่เฝ้าติดตามทีมตั้งแต่ยุคก่อน QSI ต่างน้ำตาคลอเมื่อเห็นสโมสรยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยุโรป นักเตะหลายคนร่วมขบวนพาเหรดบนรถบัสเปิดประทุนที่แล่นผ่านกลางกรุงปารีส ท่ามกลางแสงไฟและเสียงเพลงของชัยชนะ

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่น่าประทับใจนั้นมีบางส่วนที่ถูกบดบังด้วยความรุนแรงจากกลุ่มแฟนบอลส่วนน้อยที่ก่อความวุ่นวาย มีรายงานความเสียหายทั้งต่อร้านค้าและรถยนต์ในบางพื้นที่ ตำรวจนครปารีสต้องระดมกำลังเพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยมีการจับกุมผู้ก่อเหตุจำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย

คำกล่าวของนาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่

“นี่คือช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของปารีส แซงต์ แชร์กแมง ฟุตบอลฝรั่งเศส และเมืองปารีส ผมขอบคุณนักเตะ โค้ช ทีมงาน หลุยส์ คัมปอส และแฟนบอลทุกคนที่ไม่เคยหยุดเชื่อในความฝันของพวกเรา ความสำเร็จนี้มาจากความเป็นหนึ่งเดียวและจิตวิญญาณของ Rouge & Bleu” – นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร PSG

จุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับ PSG

ชัยชนะในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2024/25 ไม่เพียงเป็นแชมป์แรกในรายการนี้ของปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) แต่ยังเป็นการประกาศศักดาของพวกเขาในเวทีฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง หลังจากเคยคว้าถ้วยยุโรปใบแรกอย่าง คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1996 ครั้งนี้คือการยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้ท้าชิง แต่คือแชมป์โดยสมบูรณ์

PSG กลายเป็นสโมสรลำดับที่ 24 ที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และน่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ พวกเขาทำได้ด้วยทีมที่มีอายุเฉลี่ยเพียง 24 ปี 3 เดือน ซึ่งเป็นอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์นัดชิงรายการนี้ แสดงให้เห็นถึงรากฐานอันแข็งแกร่ง และศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของทีมในระยะยาว

ชัยชนะครั้งนี้ยังเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่เคยมอง PSG เป็นเพียง “เจ้าบุญทุ่ม” สู่ภาพลักษณ์ของสโมสรที่สร้างทีมอย่างยั่งยืน ด้วยการบ่มเพาะดาวรุ่ง เสริมทัพอย่างชาญฉลาด และพัฒนาระบบเบื้องหลังอย่างรอบด้าน สโมสรไม่ได้หยุดที่ความสำเร็จ แต่เดินหน้าสู่อนาคตด้วยความทะเยอทะยาน ฤดูกาลหน้า PSG จะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อแข่งขันชิงแชมป์สโมสรโลก ภารกิจถัดไปที่พวกเขาตั้งเป้าคว้าให้ได้อีกหนึ่งความสำเร็จ

วันนี้ PSG ได้เปล่งประกายอย่างแท้จริงในยุโรป และบทใหม่ของประวัติศาสตร์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว