
เจาะลึกทุกมุมมองการแข่งขันสุดเดือดใน EUFA Nations League Final ที่ Allianz Arena เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2025: โปรตุเกสผงาดคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ด้วยการเอาชนะสเปน 5–3 ในการดวลจุดโทษ หลังเสมอ 2–2 ใน 120 นาที ไฮไลท์ แมตช์ สถิติผู้เล่นเด่น และอารมณ์หลังเกมของโรนัลโด้ในวัย 40 พร้อมวิเคราะห์ความหมายเชิงแท็คติกและผลกระทบต่อ World Cup 2026
Portugal คว้าแชมป์ Nations League 2025
วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 (วันเดียวกับเกมฝรั่งเศส – เยอรมนี) ที่ Allianz Arena เมืองมิวนิค, เยอรมนี สนามแห่งชาติโดยมีแฟนบอลกว่า 65,852 คนร่วมเชียร์ โปรตุเกส ดวลกับ สเปน ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2025 เกมจบลงด้วยผลเสมอ 2–2 ใน 120 นาที ก่อนที่โปรตุเกสจะแจ้งเกิดด้วยความแม่นยำในการดวลจุดโทษ 5–3 ทำให้พวกเขาเข้าประวัติศาสตร์เป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ 2 สมัย (ก่อนหน้านี้ชนะปี 2019) ไฮไลท์ 90 นาที + ต่อเวลา
สเปนนำก่อน 1–0 (นาที 21)
- จังหวะเริ่มเกม 15 นาทีแรก มุ่งเน้นความเร็ว ของผู้เล่นสเปนอย่าง นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ เปดรี้ โดยเฉพาะเปดรี้ยิงเกือบได้ แต่บอลเฉียดกรอบนิดเดียว
- นาทีที่ 21 ลามีน ยามาล เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ แก้ไม่ถูก บอลไปถึง Martín Zubimendi ที่แหย่เข้าประตูเปล่า สเปนนำ 1–0
โปรตุเกสตีเสมอ 1–1 (นาที 26)
- เปโดร เนโต้ จ่ายให้ นูโน่ เมนเดส หลุดเข้าเขตโทษซัดเน้น ผ่านมือ อูไน ซิม่อน ตุงเสาแรก ทำให้โปรตุเกสตามเจ๊าในเวลาเพียง 5 นาที
สเปนนำอีกครั้ง 2–1 (นาที 45)
- ช่วงท้ายครึ่งแรกเปดรี้เจาะกลางให้ มิเกล โอยาร์ซาบัล ซัดทองเรียบ ทำให้สเปนขึ้นนำในจังหวะก่อนพักด้วยสกอร์ 2–1
โปรตุเกสตีเสมอ 2–2 (นาที 61)
- ครึ่งหลัง นาที 49 บรูโน่แฟร์นันด์ส ยิงติดล้ำหน้า แต่แล้วนาที 61 นูโน่ เมนเดส เปิดจากขวาเข้ากรอบ บอลกระเด้งหน้าประตู คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตวัดจ่อ ๆ พังตาข่าย สร้างประวัติศาสตร์ยิงประตูที่ 138 ในนามทีมชาติวัย 40 ปี
- เกมลากยาวจนไม่มีประตูเพิ่ม เลยต้องใช้ Extra time 30 นาที และจบ 2–2 เท่าเดิม
ดวลจุดโทษ 5 ประตูต่อ 3
โปรตุเกส:
- Gonçalo Ramos ยิงเข้า
- Vitinha ยิงเข้า
- Bruno Fernandes ยิงเข้า
- Nuno Mendes ยิงเข้า
- Ruben Neves ยิงชี้ขาด และยิงเข้าไปอย่างสวยงาม
สเปน:
- Mikel Merino ยิงเข้า
- Alex Baena ยิงเข้า
- Isco ยิงเข้า
- Álvaro Morata ยิงออก และจังหวะนั้น Diogo Costa ผู้รักษาประตูโปรตุเกส เซฟสำคัญ
โปรตุเกสชนะ 5–3 ชี้ขาดคว้าแชมป์สมัยที่ 2
นักเตะสำคัญของทั้ง 2 ทีม
Cristiano Ronaldo
- ยิงประตูที่ 138 ในนามทีมชาติ ในนาที 61 และกลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุด (40 ปี) ที่ยิงประตูในนัดชิง Nations League
- อารมณ์ชัดเจนเมื่อน้ำตาคลอขณะที่ผู้เล่นดาวรุ่งโปรตุเกสดวลจุดโทษ
Nuno Mendes (Man of the Match & Finals)
- ยิงตีเสมอแรกและแอสซิสต์ให้โรนัลโด้เอาคืนทั้งสองครั้ง และลงยิงจุดโทษสำเร็จ
- ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำรอบชิง และ MVP of Finals
Diogo Costa
- เซฟจุดโทษ Morata คู่ชี้ชะตา
Spain’s key players
- Zubimendi และ Oyarzabal ยิงนำสองรอบ แต่ไม่อาจรักษาสกอร์จนจบเกม
- Lamine Yamal วัย 17 โดดเด่นเกมรุกแต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตู
สถิติเกม (อ้างอิง UEFA)
ครึ่งแรก:
- เปอร์เซ็นต์ครองบอล สเปน 58% : โปรตุเกส 42%
- ยิงเข้ากรอบ: สเปน 2 ครั้ง, โปรตุเกส 1
- มุม: สเปน 2, โปรตุเกส 1
ครึ่งหลัง:
- ครองบอล สเปน 64% : โปรตุเกส 36%
- ยิงเข้ากรอบ: สเปน 3, โปรตุเกส 2
- เซฟ: โปรตุเกส 3, สเปน 1
ต่อเวลา:
- ครองบอล สเปน 57% : โปรตุเกส 43%
- ยิงเข้ากรอบ: สเปน 1, โปรตุเกส 0
รวมทั้งเกม 120 นาที:
- ครองบอล: สเปน 54%, โปรตุเกส 46%
- ยิงเข้ากรอบ: สเปน 6, โปรตุเกส 3
- เซฟ: โปรตุเกส 4, สเปน 1
ฟาวล์สะสม: สเปน 19, โปรตุเกส 13
ล้ำหน้า: สเปน 3 ครั้ง, โปรตุเกส 4 ครั้ง
ใบเหลือง: ฝั่งละ 4 ใบ

แท็คติก & วิเคราะห์เกม
โปรตุเกส 4‑2‑3‑1: เน้นจังหวะสวนกลับโดยเมนเดสและเปโดร เนโต้ ทางปีก รวมถึงใช้จังหวะ set-piece ผ่านแฟร์นันด์ส
สเปน 4‑3‑3: ครองบอลเยอะ ใช้ Yamal และ Williams ขึ้นริมเส้น แต่ขาดความเฉียบในการจบสกอร์
- แท็คติกช่วงเปลี่ยนครึ่งสนามของโปรตุเกสคุมเกมได้ดี
- สเปนมีโอกาสแต่ไม่เปลี่ยนเป็นประตูหลายครั้ง (ฟรีคิกผ่านหน้าโอกาส-เซฟเดือด)
เสียงหลังเกม
- Cristiano Ronaldo: อารมณ์เกินคำบรรยาย น้ำตาคลอเมื่อได้แชมป์ในวัย 40 ปี
- Roberto Martínez (ผู้จัดการทีมโปรตุเกส): เฝ้ามองอารมณ์นักเตะและย้ำว่านี่คือ “moment of glory” สำหรับโปรตุเกส
- ฝั่งสเปน: มีความเจ็บปวดจากความพลาดในช่วงจุดโทษ และความพ่ายแพ้ในรอบชิงสองครั้งติด
ประวัติศาสตร์ & ความสำคัญ
- โปรตุเกสเป็นชาติแรกที่คว้า Nations League สองสมัย (2019, 2025)
- โรนัลโด้กลายเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ยิงในรอบชิง Nations League (40 ปี, 138 ประตูทีมชาติ)
- Game นี้เป็น “Iberian Derby” ครั้งที่ 41; โปรตุเกสชนะสเปนในบ้านเยอรมนี
ผลกระทบต่ออนาคต & World Cup 2026
- โปรตุเกสได้รับความมั่นใจก่อนช่วงคัดบอลโลก ปี 2026 ด้วยฟอร์มแนวรุกและเป้าหมายสูง
- โรนัลโด้ยืนยันว่าเขาจะเข้าร่วมคัดบอลโลก แม้อายุ 40 แล้ว; อาจส่งต่อภาระให้ดาวรุ่ง
- สเปน: จำเป็นต้องปรับระบบจบสกอร์ และรีเซ็ตความแข็งแรงทางจิตใจเพื่อ World Cup
โปรตุเกสผงาดคว้าแชมป์ Nations League ครั้งที่ 2 ด้วยความแม่นยำในการดวลจุดโทษเหนือสเปน 5–3 หลังเสมอ 2–2 ใน 120 นาที การยิงประตูสำคัญของ โรนัลโด้ (138) และการทำหน้าที่ “คนสร้างจังหวะ” ของ นูโน่ เมนเดส กลายเป็นกุญแจสำคัญ พ่วงด้วยบทบาทฮีโร่ของ Diogo Costa กับการเซฟ Morata และจุดโทษชี้ขาดของ Ruben Neves
ชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่แค่แชมป์รายการใหญ่ แต่ยังสะท้อนความเป็นผู้นำในยุคใหม่ของโปรตุเกส อนาคตโลกฟุตบอลยุค 2026 ซึ่งเต็มไปด้วยดาวรุ่งที่พร้อมก้าวขึ้น