092-902-6146 , 092-902-6156 ezgoalnew@gmail.com

อัปเดตล่าสุด Club World Cup 2025 วิเคราะห์โอกาสลุ้นแชมป์จาก Opta 6 ทีมยักษ์ใหญ่ยุโรป เปแอสเชนำมาแรง แมนซิตี้-บาเยิร์น-อินเตอร์-มาดริด ยังลุ้น ส่วนเชลซีหลุดเต็ง วิเคราะห์ละเอียดตามหลัก SEO 2024

ทัวร์นาเมนต์ลูกหนังระดับโลกที่ถูกยกระดับ

ศึก FIFA Club World Cup 2025 เตรียมเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงกลางปี 2025 โดยครั้งนี้นับเป็นทัวร์นาเมนต์เวอร์ชันใหม่ที่ฟีฟ่าออกแบบมาเพื่อยกระดับการแข่งขันฟุตบอลสโมสรระดับโลกให้เทียบเท่ากับฟุตบอลโลกทีมชาติ ไม่ว่าจะในแง่รูปแบบ, จำนวนทีม หรือเงินรางวัลมหาศาลถึง 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,320 ล้านบาท) สำหรับทีมแชมป์

การแข่งขันปีนี้จะมีสโมสรเข้าร่วม 32 ทีมจาก 6 สมาพันธ์ทั่วโลก และเปลี่ยนเป็นจัดทุก 4 ปีแทนการแข่งรายปี โดยเป็นการยืนยันว่า FIFA Club World Cup กำลังกลายเป็น “บอลโลกของสโมสร” อย่างแท้จริง

ล่าสุด Opta บริษัทวิเคราะห์สถิติฟุตบอลชื่อดังได้เปิดเผยเปอร์เซนต์ลุ้นแชมป์ของ 6 สโมสรยักษ์ใหญ่จากยุโรป ซึ่งถือเป็นตัวเต็งในรายการนี้ ได้แก่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาเยิร์น มิวนิค, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ เชลซี บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักศักยภาพ, จุดแข็ง, และความเป็นไปได้ในการคว้าแชมป์ของแต่ละทีมแบบละเอียดที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) เต็งหนึ่งจากยุโรป

หลังจากคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2024/25 ด้วยฟอร์มสุดโหดไล่ถล่ม อินเตอร์ มิลาน 5-0 ในนัดชิง “เปแอสเช” กลายเป็นทีมที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเวที Club World Cup ปีนี้ พวกเขาเอาชนะยอดทีมจากอังกฤษทั้ง ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า และ อาร์เซน่อล ก่อนเข้าชิง นำโดยยอดโค้ชอย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่ผสมผสานความดุดันเข้ากับแท็กติกทันสมัยได้อย่างลงตัว

ผลงานเบื้องต้น

  • ชนะ แอต.มาดริด 4-0 ในเกมเปิดสนาม กลุ่ม B
  • ยังเหลือโปรแกรมเจอกับ โบตาโฟโก้ และ ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์ส

วิเคราะห์เปอร์เซนต์ความสำเร็จ (โดย Opta)

  • เข้ารอบ 16 ทีม: 91.6%
  • เข้ารอบ 8 ทีม: 75.4%
  • เข้ารอบรองชนะเลิศ: 49.2%
  • เข้ารอบชิงชนะเลิศ: 30.9%
  • คว้าแชมป์: 18.5% (อันดับ 1 จาก 6 ทีม)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าพร้อมล้างอายจากซีซั่นที่ล้มเหลว

แม้จะไร้โทรฟี่ติดมือในฤดูกาล 2024/25 แต่ “เรือใบสีฟ้า” ก็ยังคงเป็นเต็งรองอันดับ 2 สำหรับ Club World Cup ปีนี้ ด้วยประสบการณ์และขุมกำลังอันแข็งแกร่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นำทีมคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้ว 4 สมัย และซิตี้คือแชมป์เก่าปี 2023 ที่ไล่ถล่ม ฟลูมิเนนเซ่ 4-0 มาแล้ว

คู่แข่งสำคัญในกลุ่ม G:

  • ยูเวนตุส (ยังเป็นรองแมนซิตี้พอสมควร)

วิเคราะห์เปอร์เซนต์ความสำเร็จ

  • คว้าแชมป์กลุ่ม: 71.3%
  • เข้ารอบ 16 ทีม: 97.2%
  • เข้ารอบชิงชนะเลิศ: 29.6%
  • คว้าแชมป์: 17.8%

บาเยิร์น มิวนิค ฟอร์มแรงไม่แพ้ใคร

“เสือใต้” โชว์ความโหดไล่ยำ อ็อคแลนด์ ซิตี้ 10-0 ในเกมเปิดกลุ่ม C ยืนยันความตั้งใจว่าไม่ได้มาเล่นๆ หลังคว้าแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาลล่าสุด ทีมของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี มุ่งมั่นเต็มที่กับเป้าหมายใหญ่นี้

วิเคราะห์เปอร์เซนต์ความสำเร็จ

  • เข้ารอบ 16 ทีม: 93.3%
  • เข้ารอบชิงชนะเลิศ: 23.7%
  • คว้าแชมป์: 12.8%

อินเตอร์ มิลาน เจ็บแล้วต้องลุกใหม่

แพ้ เปแอสเช ในชิง UCL และพลาดแชมป์ลีกให้ นาโปลี ทำให้ อินเตอร์ ต้องตั้งหลักใหม่ โดยมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชจาก ซิโมเน่ อินซากี้ มาเป็น คริสเตียน คิวู อดีตกัปตันทีม แม้ฟอร์มยังไม่ลงตัว แต่พวกเขาก็อยู่ในกลุ่มที่ไม่หนักมากในกลุ่ม E

วิเคราะห์เปอร์เซนต์ความสำเร็จ

  • เข้ารอบแบ่งกลุ่ม: 79%
  • เข้ารอบ 8 ทีม: 74.4%
  • คว้าแชมป์: 12.3%

เรอัล มาดริด ยุคใหม่ภายใต้ ชาบี อลอนโซ่

แม้จะเป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งในรายการใหญ่ แต่ปีนี้ “ราชันชุดขาว” ถูกมองว่าเป็นรองทีมอื่น ด้วยการเปลี่ยนแปลงโค้ชและสไตล์การเล่น อย่างไรก็ตาม การมี เอ็มบัปเป้ กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เสริมทีม ก็อาจทำให้พวกเขากลับมาได้ทุกเมื่อ

วิเคราะห์เปอร์เซนต์ความสำเร็จ

  • คว้าแชมป์กลุ่ม H: 76.4%
  • เข้ารอบ 8 ทีม: 55.2%
  • คว้าแชมป์: 9.8%

เชลซี สิงห์บลูส์กับความหวังที่ริบหรี่

ทีมจากกรุงลอนดอน ที่เคยได้แชมป์รายการนี้ในปี 2021 ปีนี้กลับถูกมองว่ามีโอกาสน้อยที่สุดในกลุ่มตัวเต็ง แม้จะมีเปอร์เซนต์ทะลุรอบ 16 ทีมสูงถึง 93.4% และรอบก่อนรองฯ 56% แต่โอกาสคว้าแชมป์ยังห่างไกล

วิเคราะห์เปอร์เซนต์ความสำเร็จ

  • เข้ารอบ 8 ทีม: 56%
  • คว้าแชมป์: 8.5% (อันดับ 6 จาก 6 ทีม)

ใครคือเต็งจริง ใครคือม้ามืด

ศึก FIFA Club World Cup 2025 กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทุกสายตาทั่วโลกจับจ้อง ไม่เพียงเพราะมีเงินรางวัลมหาศาล แต่ยังสะท้อนศักยภาพของทีมจากทุกทวีปอย่างแท้จริง

จากการประเมินของ Opta ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2025 มีเพียง 3 ทีมที่มีโอกาสเกิน 15% ที่จะคว้าแชมป์ ได้แก่ เปแอสเช, แมนฯ ซิตี้ และบาเยิร์น มิวนิค ขณะที่ อินเตอร์, มาดริด และ เชลซี ยังต้องพิสูจน์ตนเองอีกมาก

แต่ในเกมฟุตบอล อะไรก็เกิดขึ้นได้ และประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้เขียนล่วงหน้าไว้เสมอ