092-902-6146 , 092-902-6156 ezgoalnew@gmail.com

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดตัว มาเตอุส คุนญ่า กองหน้าทีมชาติบราซิลจากวูล์ฟส์ ด้วยค่าตัวรวม 62.5 ล้านปอนด์ กลายเป็นนักเตะใหม่คนแรกของตลาดซัมเมอร์ 2025 พร้อมสัญญายาวถึงปี 2030 นี่ไม่ใช่แค่การเสริมทัพ แต่คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ภายใต้แผนสร้างทีมของ รูเบน อาโมริม – เจสัน วิลค็อกซ์ – เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ บทความนี้พาเจาะลึกเบื้องหลังดีลระดับบิ๊ก, สถิติน่าทึ่งของคุนญ่า, บทสัมภาษณ์ซึ้งกินใจ และบทวิเคราะห์แนวรุกที่ยูไนเต็ดกำลังปั้นขึ้นใหม่ รวมถึงแผนการพรีซีซั่น การปรับตัวของนักเตะ และความคาดหวังที่มีต่อเขาจากทั้งสโมสรและแฟนบอลทั่วโลก ค้นหาว่าทำไม ‘ความฝันวัยเด็ก’ ของคุนญ่าจึงอาจกลายเป็นกุญแจสู่การฟื้นคืนความยิ่งใหญ่ของปีศาจแดง

Matheus Cunha ฝันวัยเยาว์ สู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ปี 2025 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดฉากอย่างเป็นทางการด้วยการประกาศคว้าตัว มาเตอุส คุนญ่า (Matheus Cunha) กองหน้าทีมชาติบราซิลจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในดีลที่รวมมูลค่าทั้งสิ้น 62.5 ล้านปอนด์ โดยแบ่งชำระเป็น 3 งวด พร้อมเซ็นสัญญายาว 5 ปี จนถึงเดือนมิถุนายน 2030 และมีออปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี ซึ่งดีลนี้ไม่เพียงกลายเป็นข่าวใหญ่ของพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่ยังถือเป็น การซื้อขายที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวูล์ฟส์ โดยทำลายสถิติเดิมของ มาต์เธอุส นูเนส ที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้เมื่อปี 2023 ด้วยค่าตัว 53 ล้านปอนด์

สำหรับแฟนบอลปีศาจแดง ดีลนี้อาจเป็นเพียงหนึ่งในหลายการเสริมทัพที่สโมสรจำเป็นต้องทำเพื่อกอบกู้สถานการณ์หลังฤดูกาล 2024/25 ที่ตกต่ำถึงขีดสุด แต่สำหรับ คุนญ่า มันคือการเติมเต็มความฝันในวัยเด็ก — เขาเคยเล่าว่าตอนยังเป็นเด็กในเมืองชายฝั่ง “โจอาโอ เปสโซอา” ประเทศบราซิล เขามักนั่งดูพรีเมียร์ลีกกับคุณยาย และทีมที่เขารักคือแมนฯ ยูไนเต็ด ความฝันในการได้สวมเสื้อสีแดงจึงไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเป้าหมายที่ผลักดันให้เขาก้าวผ่านทุกบททดสอบตลอดเส้นทางค้าแข้ง

มาเตอุส คุนญ่า เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 1999 เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในยุโรปกับ เอฟซี ซิยง สโมสรในลีกสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยวัยเพียง 18 ปี โดยสร้างความประทับใจทันทีจากผลงาน 10 ประตูใน 29 นัด ก่อนจะย้ายเข้าสู่เวทีใหญ่อย่างบุนเดสลีกากับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในปี 2018 เขาทำได้ 9 ประตูจาก 39 นัด และหนึ่งในนั้นคือประตูอันยอดเยี่ยมจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง FIFA Puskás Award ประจำปี

หลังจากนั้นเขากลายเป็นแกนหลักของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน โดยยิงไป 12 ประตูจาก 39 นัด ก่อนถูก แอตเลติโก มาดริด ดึงไปร่วมทีมในปี 2021 แต่ไม่สามารถยึดตัวจริงถาวรได้ อย่างไรก็ตาม เขากลับมาแจ้งเกิดเต็มตัวในพรีเมียร์ลีกกับวูล์ฟแฮมป์ตัน โดยลงสนาม 92 นัด ยิงได้ 33 ประตู และในฤดูกาลล่าสุด (2024/25) เขายิงไปถึง 15 ประตูในลีก กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีม พร้อมพาวูล์ฟส์รอดตกชั้นได้สำเร็จ

นอกจากความโดดเด่นในสโมสร คุนญ่ายังมีผลงานที่น่าจดจำในระดับทีมชาติ โดยเป็นหนึ่งในขุนพลบราซิลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่คว้าเหรียญทองใน โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่พิสูจน์ว่าเขาคือกองหน้าที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของ “เซเลเซา” ในอนาคต

การมาถึงของคุนญ่าที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดจึงไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขหรือแผนการเสริมทัพ แต่มันคือการเชื่อมโยงความฝัน ความพยายาม และศักยภาพของดาวเตะบราซิเลียนคนหนึ่งที่หวังจะกลายเป็นส่วนสำคัญในยุคใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

จุดเปลี่ยนของทีม ทำไมแมนฯ ยูไนเต็ดถึงต้องมี “คุนญ่า”

หลังจบฤดูกาล 2024/25 อันน่าผิดหวังแบบสุดขีด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจบอันดับที่ 15 ของพรีเมียร์ลีก ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีกปี 1992 และนั่นทำให้สโมสรตระหนักว่า ไม่อาจเดินหน้าต่อด้วยโครงสร้างทีมแบบเดิมได้อีกต่อไป การมาของ มาเตอุส คุนญ่า จึงกลายเป็นมากกว่าการซื้อกองหน้า แต่คือสัญญาณของการ “รีเซ็ต” ทีมครั้งสำคัญ

เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฟุตบอลของยูไนเต็ดกล่าวว่า “เขาคือนักเตะที่มีครบทุกอย่าง – ความเร็ว ความแข็งแกร่ง ความสร้างสรรค์ และที่สำคัญคือผลงานต่อเนื่องใน 3 ลีกใหญ่ยุโรป” นี่คือคุณสมบัติที่ตอบโจทย์แผนการปฏิรูปของกุนซือคนใหม่ รูเบน อาโมริม ที่เตรียมสร้างโครงสร้างใหม่ของทีมจาก “กระดูกสันหลัง” ที่มีไดนามิก สถิติในฤดูกาลล่าสุดของคุนญ่า ก็เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพ เขายิงได้ 15 ประตูในพรีเมียร์ลีก และรวม 17 ประตูจากทุกรายการ พร้อมคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของวูล์ฟส์ อีกทั้งยังมีบทบาทกับทีมชาติบราซิล โดยลงเล่นไปแล้ว 15 นัด และมีส่วนร่วมกับประตูสำคัญที่พาทีมคว้าตั๋วสู่ฟุตบอลโลก 2026

สำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด คุนญ่าคือทั้งนักเตะพร้อมใช้และรากฐานแห่งอนาคต

ความฝันที่เป็นจริง เส้นทางสู่โอลด์ แทรฟฟอร์ดของคุนญ่า

ทันทีหลังการเปิดตัวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเตอุส คุนญ่า ให้สัมภาษณ์กับ MUTV และอดีตนักเตะอคาเดมีอย่าง แดนนี่ เว็บบ์ ถึงความรู้สึกที่แทบไม่อาจอธิบายได้เมื่อได้ย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของ “ปีศาจแดง”

“ตั้งแต่เด็ก ผมมักนั่งดูพรีเมียร์ลีกกับคุณยายที่บราซิล และแมนฯ ยูไนเต็ดคือทีมอังกฤษทีมแรกที่ผมหลงรัก” คุนญ่ากล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตัน “มันคือเสื้อสีแดงที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดว่าจะได้สวมใส่ในวันหนึ่ง…”

เขายังพูดถึงแรงสนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังว่า “ผมต้องขอบคุณครอบครัวทุกคนที่ไม่เคยหยุดเชื่อในตัวผม พวกเขาคือพลังที่ผลักดันให้ผมมาถึงจุดนี้”

สำหรับคุนญ่า นี่ไม่ใช่แค่การย้ายทีม แต่มันคือการเติมเต็ม “ความฝัน” ที่ฝังอยู่ในใจมาตลอดชีวิต และตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะตอบแทนโอกาสนี้ด้วยความมุ่งมั่นและผลงานในสนาม

ก้าวใหม่ของแนวรุกปีศาจแดง บทบาทคุนญ่าในทีมอาโมริม

การมาถึงของ มาเตอุส คุนญ่า ถือเป็นการเติมเต็มจิ๊กซอว์สำคัญในแผนการยกเครื่องแนวรุกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ รูเบน อาโมริม กุนซือใหม่ที่วางแนวทางชัดเจนในการ “รีเซ็ต” โครงสร้างทีม โดยเฉพาะในเกมรุกที่ต้องการความหลากหลาย ความคล่องตัว และประสิทธิภาพในการจบสกอร์มากกว่าที่ผ่านมา

ด้วยระบบที่อาโมริมถนัด เช่น 3-4-3 หรือ 4-2-3-1 คุนญ่าอาจถูกวางเป็น กองหน้าตัวกลางหรือกองหน้าตัวหลอก คอยเชื่อมเกมระหว่างปีกอย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ หรือ โคบี้ มายนู รวมถึงยืนคู่กับ โฮจลุนด์ หากเล่นระบบสองกองหน้า โดยมี เมสัน เมาท์ หรือ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สนับสนุนจากแนวลึก

ขณะที่หมายเลขเสื้อของเขายังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ตลอดเส้นทางอาชีพ คุนญ่าเคยใส่เบอร์ 70 (Sion), 20 (Leipzig), 10 และ 9 (Hertha), 9 (Atletico), รวมถึงเบอร์ 10 กับวูล์ฟส์ ในทีมชาติบราซิลเขาใช้เบอร์ 21 ซึ่งต้องรอติดตามว่า “เสื้อเบอร์อะไรจะกลายเป็นประวัติศาสตร์บทใหม่” ของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ในแง่การเตรียมทีม คุนญ่าจะเข้าร่วมพรีซีซั่นเต็มรูปแบบ เริ่มต้นในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ พบกับลีดส์ ยูไนเต็ดที่กรุงสตอกโฮล์ม จากนั้นจะบินสู่สหรัฐฯ เพื่อร่วมรายการ Premier League Summer Series พบกับ เวสต์แฮม, บอร์นมัธ และเอฟเวอร์ตัน ซึ่งแฟน ๆ คาดว่าจะได้เห็นเขาสวมชุดแข่งเหย้ารุ่นใหม่ของฤดูกาล 2025/26 ลงสนามครั้งแรกในทัวร์นี้

จุดเริ่มต้นใหม่ของยูไนเต็ด กับภารกิจพิสูจน์ตัวตนของคุนญ่า

การคว้าตัว มาเตอุส คุนญ่า ด้วยค่าตัว 62.5 ล้านปอนด์ ไม่ได้เป็นเพียงการเสริมทัพเชิงเทคนิค แต่ยังสะท้อนถึงยุทธศาสตร์การสร้างทีมใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ รูเบน อาโมริม, เจสัน วิลค็อกซ์ และโครงสร้างบริหารชุดใหม่ที่มุ่งสู่การ “ฟื้นคืนความยิ่งใหญ่” อย่างเป็นระบบ

บรรดาสื่อชั้นนำต่างยกให้ดีลนี้เป็นหนึ่งในดีลที่น่าจับตาแห่งซัมเมอร์ โดยพาดหัวว่า “dream move”, “productive forward” และ “huge 62.5m signing” พร้อมชื่นชมว่าเป็นก้าวที่กล้าหาญของยูไนเต็ดที่ยังไม่หยุดลงทุนในแนวรุก ขณะเดียวกันทางฝั่งวูล์ฟส์เองก็ยินดีกับการปล่อยนักเตะในดีลที่ทำลายสถิติค่าตัวสโมสร

สำหรับยูไนเต็ด คุนญ่าจะถูกคาดหวังให้ยิงและสร้างสรรค์เกมในระดับ 20+ ประตูต่อฤดูกาล โดยมีบทบาทร่วมกับแนวรุกอย่างการ์นาโช่, แอนโทนี, โฮจลุนด์ และเมาท์ ขณะที่เด็กดาวรุ่งในระบบเยาวชนจะได้รับโอกาสมากขึ้นท่ามกลางแผนการหมุนเวียนทีม

ในมุมของคุนญ่าเอง เขาจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับแรงกดดันมหาศาล ทั้งจากแฟนบอล สื่อมวลชน และความคาดหวังของสโมสรที่ไม่อาจรอผลลัพธ์ได้นาน อีกทั้งยังต้องเข้ากับระบบของอาโมริมให้เร็วที่สุด เพื่อยึดตำแหน่งตัวจริง

อย่างไรก็ตาม หากเขาทำได้สำเร็จ มาเตอุส คุนญ่า อาจกลายเป็นหัวใจหลักของปีศาจแดงทั้งในสนามและในภารกิจทวงคืนความยิ่งใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในยุคใหม่ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น