092-902-6146 , 092-902-6156 ezgoalnew@gmail.com

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากทีมที่ยิ่งใหญ่สู่ปัญหาที่สะสม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่เคยครองความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีกมาอย่างต่อเนื่อง กำลังประสบปัญหาฟอร์มตกลงอย่างเห็นได้ชัดในฤดูกาล 2024/25 สถิติการแข่งขันล่าสุด ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 พวกเขาอยู่อันดับ 4 ของตาราง แข่ง 23 นัด ชนะ 12 เสมอ 5 แพ้ 6 ยิงได้ 47 ประตู เสียไป 30 ประตู ผลต่าง +17 มีเพียง 41 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ถึง 15 คะแนน ในขณะที่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ซึ่งเป็นดาวยิงตัวเก่งของทีม ยิงไปแล้ว 18 ประตู เป็นรองดาวซัลโว โดยยิงน้อยกว่าผู้นำ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 3 ประตู

วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) แมนซิตี้ มีโปรแกรมบุกไปเยือน อาร์เซนอล ทีมอันดับ 2 ซึ่งจะเป็นบททดสอบสำคัญว่ายังมีโอกาสกลับมาสู่เส้นทางลุ้นแชมป์หรือไม่ แต่ก่อนจะถึงจุดนั้น เรามาวิเคราะห์กันว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” ฟอร์มตกลงอย่างชัดเจน

การตกต่ำของแมนซิตี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของผลการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงปัจจัยเชิงลึกหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทีม กลยุทธ์ และการบริหารจัดการสโมสร แม้ว่าพวกเขายังถือเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป แต่ความล้มเหลวในการปรับตัวและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในลีกอาจทำให้พวกเขาไม่สามารถรักษามาตรฐานเดิมได้อีกต่อไป แฟนบอลหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า แมนซิตี้กำลังเผชิญหน้ากับ “จุดเปลี่ยน” ของยุคสมัยหรือไม่ และการเปลี่ยนแปลงใดที่จำเป็นเพื่อกู้สถานการณ์ของพวกเขา

ความเหนื่อยล้าทางจิตใจและร่างกายของนักเตะ

  • โปรแกรมการแข่งขันที่หนักหน่วง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ต้องลงเล่นหลายรายการตลอดทั้งฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เอฟเอคัพ และคาราบาวคัพ ทำให้นักเตะต้องรับภาระหนัก การที่พวกเขาประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เล่นหลักหลายคนต้องลงสนามติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ
  • ความกดดันในการรักษามาตรฐานเดิม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นโค้ชที่เน้นการเล่นเกมรุกที่ต้องใช้ความละเอียดสูงและความเข้มข้นตลอด 90 นาที การรักษามาตรฐานระดับสูงตลอดเวลาย่อมสร้างความกดดันให้กับนักเตะ บางคนอาจไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นระดับสูงได้ตลอดทุกนัด

การขาดแรงจูงใจและความหิวกระหายในชัยชนะ

  • นักเตะบางส่วนเริ่มอิ่มตัว การที่แมนซิตี้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจทำให้นักเตะบางคนเริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับแชมป์พรีเมียร์ลีก การที่พวกเขาเคยคว้าทริปเปิลแชมป์ในฤดูกาล 2022/23 อาจส่งผลให้บางคนไม่มีแรงกระตุ้นพอที่จะพยายามไล่ล่าแชมป์อย่างเต็มที่
  • การเปลี่ยนแปลงภายในทีม นักเตะตัวหลักบางคน เช่น อิลคาย กุนโดกัน ที่เคยเป็นหัวใจสำคัญของทีม ได้ย้ายออกไป ทำให้ทีมสูญเสียผู้นำในสนาม นอกจากนี้ การมาของนักเตะใหม่บางรายยังไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างที่หายไปได้อย่างสมบูรณ์

ปัญหาการบาดเจ็บของนักเตะสำคัญ

  • การขาดหายไปของโรดรี้และเดอ บรอยน์ 2 นักเตะคนสำคัญของทีม โรดรี้ เป็นกองกลางตัวรับที่สำคัญมากของทีม การที่เขาได้รับบาดเจ็บและต้องพักรักษาตัวในบางช่วงของฤดูกาล ทำให้แดนกลางของแมนซิตี้เสียสมดุล ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ แม้จะกลับมาจากอาการบาดเจ็บ แต่ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดได้
  • ความไม่พร้อมของเออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวซัลโวประจำทีมอย่าง ฮาแลนด์ ที่เป็นศูนย์หน้าตัวหลักของทีม แม้ว่าเขาจะยิงไปแล้ว 18 ประตู แต่ในบางนัดที่เขาได้รับบาดเจ็บหรือมีปัญหาฟอร์มตก แมนซิตี้กลับขาดตัวเลือกอื่นที่สามารถทดแทนการทำประตูของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การรับมือกับเกมสวนกลับของคู่แข่ง

  • จุดอ่อนในเกมรับ แมนซิตี้ มักเล่นเกมบุกและดันแนวรับขึ้นสูง ซึ่งเปิดโอกาสให้คู่แข่งเล่นเกมสวนกลับได้ง่ายขึ้น ในฤดูกาลนี้พวกเขาเสียไปแล้วถึง 30 ประตูจาก 23 นัด ซึ่งถือว่าสูงกว่ามาตรฐานของพวกเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
  • การขาดแคลนกองหลังตัวหลัก รูเบน ดิอาส และจอห์น สโตนส์ ซึ่งเป็นกำลังหลักของแนวรับต่างมีช่วงเวลาที่ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้แนวรับของแมนซิตี้มีความเปราะบางมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของแท็กติกและการบริหารทีม

  • การเล่นที่ถูกอ่านทางได้ สไตล์การเล่นของแมนซิตี้ที่ใช้การครองบอลและกดดันสูง อาจเริ่มถูกคู่แข่งจับทางได้ และหาวิธีรับมือกับมันได้ดีขึ้น ทีมอย่างลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอลสามารถตั้งรับลึกและรอสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การตัดสินใจเรื่องตลาดนักเตะ แมนซิตี้อาจไม่เสริมทัพในตำแหน่งที่จำเป็นที่สุด เช่น ตำแหน่งกองกลางตัวรับและแนวรับ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของพวกเขาในฤดูกาลนี้

อนาคตของแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะเป็นอย่างไร

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเป็นทีมที่มีศักยภาพสูงและมีโค้ชที่ยอดเยี่ยมอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่หากพวกเขาต้องการกลับไปสู่จุดสูงสุด พวกเขาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเหนื่อยล้าของนักเตะ การบริหารแรงจูงใจ การเสริมทัพ และการปรับเปลี่ยนแท็กติกให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น

คืนนี้ (2 กุมภาพันธ์) พวกเขาจะต้องเผชิญกับอาร์เซนอล ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดสำคัญว่าพวกเขายังมีโอกาสไล่ล่าแชมป์อยู่หรือไม่ หากพวกเขาแพ้อีกครั้ง ความหวังในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกอาจจะยิ่งริบหรี่ลงไปอีก

ในระยะยาว แมนซิตี้อาจต้องพิจารณาการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ การเพิ่มนักเตะที่มีแรงจูงใจสูงเข้าสู่ทีม และการเปลี่ยนแปลงแท็กติกเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของลีกที่เปลี่ยนแปลงไป อนาคตของพวกเขายังไม่ได้ถูกปิดตาย แต่การตัดสินใจในช่วงเวลานี้จะเป็นตัวกำหนดว่าพวกเขาจะสามารถกลับไปครองบัลลังก์พรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ การแข่งขันที่กำลังจะมาถึงคือบททดสอบสำคัญว่า “เรือใบสีฟ้า” จะยังคงแล่นต่อไป หรือเริ่มถอยหลังเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่