เจาะลึกเรื่องราวของ “โลธ่าร์ มัทเธอุส” หนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ผู้สามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรุก ตัวรับ และกองหลัง พาทีมชาติเยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1990 พร้อมกับคว้ารางวัลบัลลงดอร์ และสร้างตำนานในระดับสโมสรกับบาเยิร์น มิวนิค และอินเตอร์ มิลาน

นักเตะที่เปลี่ยนเกมฟุตบอลตลอดกาล

โลธ่าร์ มัทเธอุส (Lothar Matthäus) คือชื่อที่ถูกกล่าวขานในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล Super Man ของวงการฟุตบอลโลก เขาเป็นผู้เล่นที่สามารถเล่นได้ทั้ง กองกลางตัวรุก (Attacking Midfielder), กองกลางตัวรับ (Defensive Midfielder) และกองหลัง (Sweeper) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องอาศัยความสามารถรอบด้าน ความเป็นผู้นำ และไหวพริบในการอ่านเกม ด้วยเส้นทางอาชีพที่ยาวนานกว่า 20 ปี และการลงเล่นระดับนานาชาติถึง 150 นัด ให้กับทีมชาติเยอรมนี มัทเธอุสกลายเป็นไอคอนของวงการฟุตบอลโลก เขาพาเยอรมนีคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 1990 และได้รับรางวัล บัลลงดอร์ ปี 1990 ซึ่งเป็นกองกลางไม่กี่คนในประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลนี้

มัทเธอุสเป็นนักเตะที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการครองบอล การจ่ายบอลระยะไกลที่แม่นยำ หรือการยิงจากแถวสองที่ทรงพลัง เขาสามารถเปลี่ยนแปลงจังหวะเกมจากเกมรับเป็นเกมรุกได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถเหล่านี้ทำให้เขาเป็นศูนย์กลางของทุกทีมที่เขาลงเล่น และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ทรงอิทธิพลที่สุดของยุค ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของมัทเธอุสไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในสนามเท่านั้น แต่เขายังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำของทีม ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ เขามีคาแรกเตอร์ที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาได้รับตำแหน่งกัปตันทีมในช่วงสำคัญของอาชีพ ความทุ่มเทและความสามารถของเขาทำให้เขากลายเป็นต้นแบบของนักเตะรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น โทนี่ โครส, จู๊ด เบลลิ่งแฮม, จอร์จิญโญ่ และชื่อของเขายังคงถูกกล่าวถึงในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก

มัทเธอุสไม่เพียงแต่เป็นกองกลางที่ยอดเยี่ยมในแง่ของเทคนิคและแทคติก แต่เขายังมีวิสัยทัศน์ในการเล่นที่ล้ำลึก สามารถอ่านเกมและปรับเปลี่ยนแผนการเล่นได้อย่างชาญฉลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่น ๆ เขาเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ทั้งเกมรับและเกมรุกอย่างสมดุล และเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ทีมที่เขาสังกัดสามารถประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด

ชีวิตในวัยเด็กและการเริ่มต้นอาชีพ

• เกิด: 21 มีนาคม ค.ศ. 1961 ที่แอร์ลังเงิน เยอรมนีตะวันตก
• เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่น 1. FC Herzogenaurach ก่อนเข้าสู่อคาเดมีของโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
• เปิดตัวในบุนเดสลีกากับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในปี 1979 และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมอย่างรวดเร็ว

มัทเธอุสเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่หลงใหลในฟุตบอล ซึ่งช่วยหล่อหลอมความรักในเกมของเขาตั้งแต่อายุยังน้อย ความมุ่งมั่นและพรสวรรค์ทำให้เขากลายเป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองในเยอรมนี การเล่นของเขาโดดเด่นด้วยพลังงานที่ไม่มีหมด และความสามารถในการเล่นบอลได้ทั้งสองเท้า ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งของเขาในอาชีพการค้าแข้ง นอกจากพรสวรรค์ด้านฟุตบอลแล้ว มัทเธอุสยังมีความสามารถในการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ยังเด็ก เขามีความเข้าใจในระบบการเล่นและแทคติกได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้เขามีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ในช่วงเวลาที่เล่นให้กับทีมเยาวชนของมึนเช่นกลัดบัค โค้ชและเพื่อนร่วมทีมต่างชื่นชมในสไตล์การเล่นของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยความดุดัน ความแม่นยำในการจ่ายบอล และการยิงไกลที่ทรงพลัง

เมื่อเขาได้รับโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของมึนเช่นกลัดบัคในปี 1979 มัทเธอุสสามารถสร้างความประทับใจได้ทันทีด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการตัดเกมแดนกลาง หรือการช่วยสร้างโอกาสให้แนวรุก เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในเยอรมนีในช่วงเวลานั้น และถูกจับตามองจากสโมสรชั้นนำหลายแห่งในบุนเดสลีกา จากนั้น มัทเธอุสใช้เวลา 5 ฤดูกาล กับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค โดยลงเล่นมากกว่า 160 นัด และกลายเป็นกองกลางที่มีบทบาทสำคัญต่อทีม นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ช่วยให้เขาพัฒนาทักษะและสร้างความมั่นใจในสนาม ก่อนที่เขาจะก้าวไปสู่สโมสรที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมในอนาคต

ความสำเร็จระดับสโมสร

ยุคทองกับบาเยิร์น มิวนิค

• ปี 1984 มัทเธอุสย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค และพาทีมคว้า แชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัย (1984–85, 1985–86, 1986–87)
• คว้า เดเอฟเบ-โพคาล 2 สมัย (1985–86, 1997–98)
• เป็นกัปตันทีมที่ช่วยสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับสโมสรในยุค 80

มัทเธอุสเป็นศูนย์กลางของบาเยิร์นในช่วงยุคทอง เขามีบทบาทสำคัญในการควบคุมจังหวะเกม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเกมจากแดนกลาง หรือการเติมขึ้นไปทำประตูด้วยตัวเอง ความเป็นผู้นำของเขาทำให้เพื่อนร่วมทีมเชื่อมั่นและเป็นแรงผลักดันสำคัญในทุกเกมการแข่งขัน

ความสำเร็จกับอินเตอร์ มิลาน

• ปี 1988 ย้ายไป อินเตอร์ มิลาน และเป็นหัวใจสำคัญของทีม
• คว้า แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา 1988–89 และ ยูฟ่า คัพ 1990–91
• ได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่า (FIFA World Player of the Year) ปี 1991

การย้ายไปเล่นในอิตาลีช่วยให้มัทเธอุสพัฒนาทักษะการเล่นเกมรับมากขึ้น กัลโช่ เซเรีย อา เป็นลีกที่มีเกมรับที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น ทำให้เขาต้องปรับตัวและกลายเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น การคว้าแชมป์กับอินเตอร์ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของเขา

ความสำเร็จในระดับทีมชาติ

• พาเยอรมนีคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี โดยเอาชนะอาร์เจนตินา 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ
• ได้รับรางวัล บัลลงดอร์ 1990 และเป็นกองกลางที่เล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งเกมรุกและเกมรับ

ฟุตบอลโลก 1990 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่มัทเธอุสแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของเขา เขาเป็นหัวใจสำคัญของทีมเยอรมนีทั้งในแง่ของแทคติกและความเป็นผู้นำ การพาทีมคว้าแชมป์เป็นสิ่งที่ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล มัทเธอุส ไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่เก่งกาจในสนาม แต่ยังเป็นผู้นำที่แท้จริงของทีม ด้วยบุคลิกที่เด็ดเดี่ยวและความสามารถในการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม ทำให้เขากลายเป็นกัปตันที่มีอิทธิพลสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก ความสามารถของเขาไม่ได้จำกัดเพียงการครองบอลและการจ่ายบอลเท่านั้น แต่เขายังสามารถทำประตูสำคัญได้ในเวลาที่ทีมต้องการมากที่สุด

ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 1990 มัทเธอุสทำประตูได้ 4 ประตู ในทัวร์นาเมนต์ ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับกองกลาง นอกจากนี้ การควบคุมจังหวะเกมและการอ่านสถานการณ์ในสนามของเขาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เยอรมนีสามารถก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้สำเร็จ แม้จะต้องเผชิญหน้ากับทีมที่แข็งแกร่งตลอดการแข่งขัน แต่มัทเธอุสก็สามารถสร้างสมดุลระหว่างเกมรับและเกมรุกได้อย่างไร้ที่ติ การคว้าแชมป์โลกครั้งนี้ยังทำให้มัทเธอุสกลายเป็นนักเตะที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก และเป็นหนึ่งในไม่กี่กองกลางที่เคยได้รับรางวัลบัลลงดอร์ ซึ่งเป็นรางวัลที่มักจะตกเป็นของกองหน้าหรือเพลย์เมกเกอร์มากกว่ากองกลางตัวรับ การที่มัทเธอุสได้รับรางวัลนี้เป็นการพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ และสามารถสร้างอิทธิพลต่อเกมได้จากทุกตำแหน่งที่เขาลงเล่น

โลธ่าร์ มัทเธอุส คือตำนานที่ไม่มีวันลืม

โลธ่าร์ มัทเธอุส ไม่ใช่แค่กองกลางที่เก่งที่สุดในยุคของเขา แต่เขาคือ สัญลักษณ์ของความเป็นนักสู้ ความเป็นผู้นำ และความมุ่งมั่นในการแข่งขัน เขาประสบความสำเร็จในทุกระดับของฟุตบอล ตั้งแต่สโมสรจนถึงทีมชาติ และเป็นนักเตะที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง มัทเธอุส เป็นแบบอย่างของความทุ่มเทและการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเขาจะเล่นในหลายตำแหน่ง แต่เขาก็สามารถทำได้ดีในทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นกองกลางตัวรุก กองกลางตัวรับ หรือกองหลัง ความสามารถในการเล่นได้หลากหลายตำแหน่งนี้ทำให้เขาเป็นนักเตะที่หายากและเป็นที่ต้องการของทุกทีมที่เขาเคยลงเล่น

นอกจากความสามารถในสนามฟุตบอลแล้ว มัทเธอุสยังได้รับการยกย่องในฐานะกัปตันที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอล เยอรมนีในยุคของเขาถือเป็นทีมที่มีวินัยสูง และมัทเธอุสก็เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยหลอมรวมทีมให้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม หรือการเป็นตัวอย่างที่ดีในสนาม เขาคือกัปตันที่สามารถพาทีมไปสู่ความสำเร็จสูงสุด มัทเธอุส เป็นนักเตะที่มีความสามารถรอบด้าน นอกจากทักษะด้านเกมรับที่ยอดเยี่ยมแล้ว เขายังมีการยิงไกลที่ทรงพลัง และสามารถเปลี่ยนเกมได้จากทุกพื้นที่ในสนาม ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอลที่แม่นยำ หรือการทำประตูจากระยะไกล ความสามารถนี้ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีอิทธิพลต่อเกมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

โลธ่าร์ มัทเธอุส หรือ ฉายาSuper Man คือตำนานที่แท้จริงของวงการฟุตบอลโลก และชื่อของเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ตลอดไป ไม่เพียงแค่ในฐานะนักเตะที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังเป็นบุคคลที่ได้รับการยกย่องในฐานะนักฟุตบอลต้นแบบให้กับนักเตะรุ่นต่อไปอีกด้วย