092-902-6146 , 092-902-6156 ezgoalnew@gmail.com

บทวิเคราะห์แบบเจาะลึกทุกมิติของเกมรอบชิงอันดับ 3 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2025 ที่ฝรั่งเศสบุกชนะเยอรมนี 2-0 พร้อมสถิติเด่นของ “เอ็มบั๊ปเป้” ที่ทำสถิติยิงครบ 50 ประตูให้ทีมชาติและการประเมินผู้เล่นเด่น มาดูแท็คติกเดรส์ช็องส์ สภาพทีมก่อนแข่ง และบทสรุปฤดูกาลระหว่างชาติก่อนฟุตบอลโลก 2026 ที่จะมาถึง

ฝรั่งเศส ชนะ เยอรมนี 2-0

  • นัดชิงอันดับ 3 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2025 ดวลกันเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 เวลา 20:30 น. ที่ MHPArena เมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี
  • ฝรั่งเศสบุกถิ่นเยอรมนี และเอาชนะ 2-0 ทำอันดับที่ 3 ของรายการ พิสูจน์ความแข็งแกร่งแม้ชวดเข้าชิงสูงสุด
  • แม้เกมไม่ได้มีความหมายความสำคัญเท่าสนามชิง แต่ความเปรี้ยงของ “ตราไก่” ยังคงชัดเจน โดยเฉพาะฟอร์มเฉียบของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ไฮไลต์เกม จังหวะสำคัญ 2 ประตู

ประตูที่ 1 (นาที 45+1) – แบกคะแนนนำก่อนพัก

  • นาทีครึ่งหลังเสี้ยวแรก “เอ็มบั๊ปเป้” พาบอลลากหลบแนวรับเยอรมนี และซัดอาร์คโค้งจากนอกเขต เรียกว่า “curling beauty” หรือบอลโค้งงามตา ส่งตราไก่ขึ้นนำ 1-0
  • ประตูนี้นอกจากช่วยให้ทีมได้เปรียบ ยังเป็นประตูที่ 50 ในสีเสื้อทีมชาติของเอ็มบั๊ปเป้ในเกมที่ 90 อีกด้วย

ประตูที่ 2 (นาที 84) – ปิดเกมโดย “ชาร์จจ่อ”

  • จังหวะรุกเร็ว ฝรั่งเศสฉกบอลแดนตัวเองและสาดยาวให้เอ็มบั๊ปเป้หลุดเดี่ยว ก่อนจะส่งให้ ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ชาร์จจ่อ ๆ เข้าไปอย่างไม่ยาก

ตัวแปรคนสำคัญ เกร็ดผู้เล่น

คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (กัปตันทีม)

  • ยิง 1 จ่าย 1 และทำสถิติยิงครบ 50 ประตู จากการลงเล่น 90 นัด
  • กลายเป็นผู้ทำประตูลูกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติฝรั่งเศส (เร็วกว่า เธียร์รี อองรี)
  • บทบาทกัปตันทีมเปล่งประกาย และยิงลูกติดกลายเป็นประตูสำคัญช่วงเวลาสำคัญ

ไมเคิ่ล โอลิเซ่

  • เจ้าของลูกยิงจังหวะสุดท้ายทำประตูโทน และถูกยกย่องว่า “สมบูรณ์แบบในงานโจมตี”
  • เก็บผลงานจิ๋วจังหวะสำคัญแม้แทบไม่ถูกพูดถึง แต่เป็นกุญแจปิดเกมอย่างแท้จริง

ไมค์ มาญาน (ผู้รักษาประตู)

  • โชว์เซฟสำคัญหลายครั้ง รวมถึงสุดยอดเซฟจาก ฟลอเรียน วิร์ตซ์ และโอกาสยิงของเดอมิทซ์ เยอรมนี
  • ชดเชยจังหวะผิดพลาดในรอบรองฯ และนับเป็นวันที่ “redemption” จริงจัง

แท็คติก & เปลี่ยนเกม

ฝรั่งเศส

  • เล่นสไตล์โต้ตามสเปคโดม
  • เริ่มเกมตั้งรับลึก ปล่อยบอลให้เยอรมนีครอง แต่เน้นบอลสวนไว
  • ใช้ความเร็วและทักษะเฉียบอย่างเอ็มบั๊ปเป้, แชร์กี้ ถล่มแนวรับเยอรมนีหลายครั้ง
  • เห็นได้ชัดว่าออกแบบมาเจาะจังหวะ transition ของเยอรมนี

เยอรมนี

  • ตั้งใจมาเต็มที่ทั้งทีมหลัก ไม่มีนักเตะตัวสำคัญเจ็บหรือแบน
  • รูปแบบ 4-3-3 เน้นครองบอลจัด แต่สลับเร็วไม่ได้
  • ขาด killer instinct, ไม่สามารถแปรครองบอลเป็นประตู

เสียงหลังเกมจากโค้ช & นักเตะ

  • ดีดิแยร์ เดส์ช็องส์ (ฝรั่งเศส) ชื่นชมว่า “เรามีสมาธิสูง ยิงจังหวะได้ดี และใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์”
  • โจชัว คิมมิช (เยอรมนี) พูดตรง ๆ ว่า “เราเปลืองโอกาสเกินไป เกมนี้ต้องจับจังหวะให้ดีขึ้น”

ความหมายของอันดับ 3

  • ฝรั่งเศส: แม้ไม่ได้เผชิญในการชิงแชมป์ แต่จบด้วยแรงบันดาลใจ ลบฝันร้ายในรอบรองไปก่อนหน้า
  • เยอรมนี: นัดนี้ชัดเจนถึงจุดอ่อนจบสกอร์ และการขึ้น “แพ้ 2 นัดติดต่อกัน” เป็นสัญญาณเตือนก่อนบอลโลก 2026
  • สำหรับฝรั่งเศสแล้ว นี่คือเครื่องหมายที่สองของซีซั่นเตรียมพร้อม World Cup qualifiers – ทั้ง mental และ attacking prowess

เปรียบเทียบกับสถิติประวัติศาสตร์

  • จุดสำคัญคือเอ็มบั๊ปเป้ยิงประตูที่ 50 – แซงหน้าความเร็วถึง 63 นัด อีกทั้งเร็วกว่าอองรี ทำลายสถิตินักเตะยอดยิงไวที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติ
  • ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2025 คือทัวร์นาเมนต์ที่ 4 ตั้งแต่ 2018 – ฝรั่งเศสได้อันดับ 3 จากเจ้าภาพ (เยอรมนี) ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ความเป็นทีมชาติยุโรประดับต้น

จุดเด่นที่ควรจับตา

  1. เอ็มบั๊ปเป้: ทรงอิทธิพล ยิงสวยทำสถิติใหม่ เป็นแรงบันดาลใจให้ทีม
  2. โอลิเซ่: เริ่มโดดเด่นพัฒนาก้าวขึ้นสู่เวทีกรังด์ระดับทีมชาติ
  3. มัญญาน vs เทรสเทเก้น: ใครคุมเกมรับได้ดีกว่ากัน มีผลต่อเกม
  4. เยอรมนี: จำเป็นต้องรีเซ็ตระบบจบสกอร์ ก่อนบอลโลก
  5. แท็คติกโต้กลับ: ยุคนี้ฟุตบอลยุโรปคือการรอจังหวะจุดไฟที่เร็วและเฉียบคม

บทสรุปประจำเกม

ฝรั่งเศส บุกถิ่นทีมเยอรมนี ตีแชมป์อันดับ 3 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2025 ด้วยการบุกโชว์ฟอร์มสมบูรณ์พร้อมยิง 2-0 หลังครึ่งแรกงามประตูจาก เอ็มบั๊ปเป้ และกำจัดทีเด็ดจบที่ลูกโซโลพร้อมจ่ายลูกสุดท้ายให้โอลิเซ่เติมสกอร์อย่างงดงาม

  • เอ็มบั๊ปเป้: ประตูที่ 50 ในนามทีมชาติ
  • ชนะรอบชิงอันดับ 3: รักษาฟอร์มจิตใจให้พร้อมสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในอนาคต
  • เยอรมนี: ต้องปรับเร่งระบบจบสกอร์-แท็คติกทันที