
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มแชมป์สมราคา เฉือนเอาชนะลำพูน วอริเออร์ 2-0 ในศึกรีโว่ คัพ 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์สมัยที่ 8 ของรายการนี้อย่างยิ่งใหญ่ เกมนี้เต็มไปด้วยดราม่า ตั้งแต่ช่วงต้นเมื่อ ฟาบินโญ่ กองหน้าลำพูนโดนใบแดงในนาทีที่ 3 ทำให้ทีมต้องเล่น 10 คนตั้งแต่ต้นเกม แม้ลำพูนจะต้านทานได้เกือบทั้งเกม แต่บุรีรัมย์มาได้ประตูชัยจากจุดโทษของ กิลเญเม่ บิสโซลี่ และลูกปิดกล่องจาก ดิออน คูลส์ ในช่วงทดเวลา ชัยชนะครั้งนี้ทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกในไทยที่คว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว ทั้งไทยลีก, เอฟเอ คัพ, Shopee Cup และรีโว่ คัพ พร้อมปิดฤดูกาล 2024/25 อย่างยิ่งใหญ่ด้วยเงินรางวัลรวมกว่า 100 ล้านบาท และความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลง
ปราสาทสายฟ้าผงาดคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว
ในค่ำคืนที่ฝนตกหนัก ณ สนามบีจี สเตเดียม จังหวัดปทุมธานี วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทย เมื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างชื่อกระหึ่มวงการลูกหนังไทยด้วยการเอาชนะ ลำพูน วอริเออร์ 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลรีโว่ คัพ 2024/25 คว้าแชมป์สมัยที่ 8 ในรายการนี้ พร้อมผงาดเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่กวาดแชมป์ครบ 4 รายการใหญ่ในฤดูกาลเดียว ได้แก่ ไทยลีก, ช้าง เอฟเอ คัพ, Shopee Cup และ รีโว่ คัพ
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น เกมต้องเลื่อนจากเวลาเดิม 18.00 น. ไปเป็น 18.45 น. เนื่องจากพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้สภาพสนามเปียกชุ่มและต้องใช้เวลาจัดการสนามให้พร้อมต่อการแข่งขัน บรรยากาศภายในสนามยังคงร้อนแรงท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอลทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะแฟน “ปราสาทสายฟ้า” ที่ต่างจับตาโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ 4 แชมป์
เพื่อความยุติธรรมสูงสุด สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้แต่งตั้งทีมผู้ตัดสินจากเกาหลีใต้มาทำหน้าที่ในนัดชิงชนะเลิศ นำโดย คิม วู ซุง เป็นผู้ตัดสินหลัก พร้อมด้วย ยุน แจ ยอง และ พัค ซัง จุน ทำหน้าที่ไลน์แมน ขณะที่ VAR ใช้ทีมผู้ตัดสินชาวไทยนำโดย ศิวกร ภูอุดม และ ภัทรพงศ์ กิจสถิตย์
เกมเริ่มต้นได้เพียง 3 นาที ลำพูนต้องพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ ฟาบินโญ่ ศูนย์หน้าตัวหลักของทีมถูกใบแดงไล่ออกจากสนามจากจังหวะย่ำใส่ข้อเท้าของ โก มยอง ซอก หลังผู้ตัดสินดู VAR ด้วยตัวเอง การเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่ต้นเกมทำให้ลำพูนต้องปรับแผนอย่างเร่งด่วน และเป็นการเปิดโอกาสให้บุรีรัมย์ครองเกมเกือบตลอด 90 นาที
ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงส่งให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์รายการที่ 8 ของศึกรีโว่ คัพ แต่ยังรวมถึงการปิดฤดูกาลด้วยความยิ่งใหญ่ระดับตำนาน นำรายได้รวมจาก 4 แชมป์ทะลุ 100 ล้านบาท เป็นการตอกย้ำมาตรฐานระดับทวีปของสโมสรจากแดนอีสาน ที่วันนี้ได้กลายเป็นทีมต้นแบบของวงการฟุตบอลอาชีพไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
เส้นทางสู่แชมป์รีโว่ คัพ 2024/25 ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นการแข่งขันรีโว่ คัพ ฤดูกาล 2024/25 ด้วยฟอร์มที่คงเส้นคงวา เอาชนะ ลำปาง เอฟซี 2-1 ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย ก่อนจะบุกชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเกมนี้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพเชิงลึกของขุมกำลังที่สามารถโรเตชั่นได้โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ พวกเขาต้องพบกับบททดสอบที่หนักที่สุดในการดวลกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด เกมสุดมันส์ที่ลากยาวถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่ ศุภชัย ใจเด็ด จะยิงประตูชัยพาทีมเฉือนชนะ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือก
และในรอบรองชนะเลิศ “ปราสาทสายฟ้า” แสดงให้เห็นถึงพลังเกมรุกอันจัดจ้าน ถล่ม หนองบัว พิชญ เอฟซี ไปถึง 7-0 กลายเป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดในรอบรองฯ ของรายการนี้ในรอบหลายปี พร้อมส่งสัญญาณเตือนทุกทีมว่าบุรีรัมย์มาเพื่อคว้าแชมป์อย่างแท้จริง
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 ลำพูน วอริเออร์
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ลำพูน วอริเออร์ เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์สำคัญในนาทีที่ 4 เมื่อ ฟาบินโญ่ กองหน้าลำพูน ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามจากจังหวะย่ำใส่ข้อเท้าของ โก มยอง ซอก หลังจากผู้ตัดสินตรวจสอบ VAR
แม้ลำพูนจะเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ต้นเกม แต่สามารถต้านทานเกมรุกของบุรีรัมย์ได้จนถึงช่วงท้ายเกม นาทีที่ 90+4 บุรีรัมย์ได้จุดโทษจากจังหวะที่ วิทยา มูลวงษ์ ทำฟาวล์ ดิออน คูลส์ ในกรอบเขตโทษ กิลเญเม่ บิสโซลี่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
ต่อมาในนาทีที่ 90+12 ดิออน คูลส์ ยิงประตูปิดท้ายจากความผิดพลาดของแนวรับลำพูน ส่งผลให้บุรีรัมย์ชนะ 2-0 คว้าแชมป์รีโว่ คัพ สมัยที่ 8 พร้อมรับเงินรางวัล 5 ล้านบาท
สถิติสำคัญของการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
- การครองบอล: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 75% – 25% ลำพูน วอริเออร์
- จำนวนยิงทั้งหมด: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 16 ครั้ง – 5 ครั้ง ลำพูน วอริเออร์
- ยิงเข้ากรอบ: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 ครั้ง – 1 ครั้ง ลำพูน วอริเออร์
- ใบเหลือง: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 ใบ – 5 ใบ ลำพูน วอริเออร์
- ใบแดง: ลำพูน วอริเออร์ 1 ใบ (ฟาบินโญ่)
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศของลำพูน วอริเออร์
ลำพูน วอริเออร์ สร้างเซอร์ไพรส์ตลอดเส้นทางในศึกรีโว่ คัพ 2024/25 ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมเกินความคาดหมาย พวกเขาเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการเอาชนะ มาราไลนา เอฟซี 3-1 ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย ก่อนจะผ่าน เมืองตรัง ยูไนเต็ด มาได้อย่างมั่นใจในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
รอบก่อนรองชนะเลิศ “ราชันโคขาว” โชว์ฟอร์มเหนียวแน่น บดเอาชนะทีมใหญ่อย่าง การท่าเรือ เอฟซี 2-0 จนเรียกเสียงชื่นชมไปทั่ววงการ และในรอบรองชนะเลิศ พวกเขาต่อกรกับ ราชบุรี เอฟซี ได้อย่างเด็ดขาด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่ตอกย้ำศักยภาพของทีมจากภาคเหนือที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ความสำเร็จของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2024/25
ฤดูกาล 2024/25 ถือเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยคว้าแชมป์ทั้ง 4 รายการ ได้แก่
- ไทยลีก 1: คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศไทย
- ช้าง เอฟเอ คัพ: เอาชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-2 ในรอบชิงชนะเลิศ
- Shopee Cup: คว้าแชมป์รายการใหม่ที่จัดขึ้นในฤดูกาลนี้
- รีโว่ คัพ: เอาชนะ ลำพูน วอริเออร์ 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศ
ความสำเร็จนี้ส่งผลให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลายเป็นสโมสรแรกในประเทศไทยที่คว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว
การเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้า
เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์หลังคว้าแชมป์รีโว่ คัพ ว่า สโมสรมีแผนวางกลยุทธ์ระยะยาวและเตรียมเสริมทัพเพื่อรับมือกับภารกิจหนักในฤดูกาลหน้า ซึ่งต้องลงแข่งขันถึง 5 รายการใหญ่ ทั้งในประเทศและระดับทวีป ไม่ว่าจะเป็น ไทยลีก, ช้าง เอฟเอ คัพ, รีโว่ คัพ, Shopee Cup และรายการ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เอลีต ที่จะกลับมาแข่งขันในฟอร์แมตรูปแบบใหม่
การรักษาขุมกำลังตัวหลักและเพิ่มนักเตะระดับคุณภาพในทุกตำแหน่ง คือสิ่งที่เนวินยืนยันว่าจะดำเนินการเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง สโมสรยังให้ความสำคัญกับระบบอะคาเดมีเพื่อปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ รวมถึงวางแผนพรีซีซั่นที่เข้มข้นมากขึ้น โดยจะมีการลงอุ่นเครื่องกับทีมจากต่างประเทศ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมกับความท้าทายที่มากขึ้นในปี 2025/26 ซึ่งบุรีรัมย์ตั้งเป้าจะ ป้องกันแชมป์ทั้ง 4 ถ้วย และสร้างผลงานที่น่าจดจำในเวทีเอเชีย
ปราสาทสายฟ้ากับความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ยกระดับตัวเองจาก “สโมสรฟุตบอลภูธร” ขึ้นมาเป็นต้นแบบของความสำเร็จในวงการฟุตบอลไทย ทั้งในแง่การบริหาร การลงทุนระยะยาว และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ชัดเจน ฤดูกาล 2024/25 ไม่เพียงเป็นปีแห่งแชมป์เท่านั้น แต่ยังเป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับทุกสโมสรในประเทศ
การคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว สะท้อนให้เห็นถึง “ความพร้อมรอบด้าน” ทั้งเรื่องของโครงสร้างทีม, ความฟิตของนักเตะ, คุณภาพของผู้เล่นทั้ง 11 ตัวจริงและตัวสำรอง รวมถึงการวางหมากเกมต่อเกมที่ละเอียดลึกซึ้งโดยทีมโค้ช
แรงสนับสนุนจากแฟนบอล “ปราสาทสายฟ้า” ก็เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญ พวกเขาเต็มสนามในเกมเหย้าและตามไปเชียร์ในเกมเยือนอย่างเหนียวแน่น ฤดูกาลหน้าคือบททดสอบใหม่ที่ท้าทายยิ่งกว่า แต่บุรีรัมย์ได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาคือทีมที่ไม่ได้มาเพียงชั่วคราว แต่คือ “ราชันแห่งยุค” ที่พร้อมเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ต่อไป